นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 9 ก.พ. โดย มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปีต่อไป ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ยังคงมีความเปราะบาง และการฟื้นตัวที่ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยได้รับแรงกดดันในการดำรงชีพมากขึ้นจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น และภาระในการชำระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กนง.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ที่ 0.9% และอาจจะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น โดยยังต้องติดตามผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นในภาวะที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยเฉพาะอาชีพอิสระและลูกจ้างภาคบริการ
“อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2565 มีแนวโน้มสูงกว่าที่ประเมินไว้และอาจสูงกว่ากรอบเป้าหมายในช่วงแรกของปีจากการปรับขึ้นของราคาสินค้า โดยเฉพาะราคาพลังงานและอาหารสดบางประเภท โดยยอมรับว่าเป็นห่วงราคาพลังงานที่จะสูงต่อเนื่อง แต่ภาพรวมยังมองว่าราคาจะสูงขึ้นเป็นปัจจัยระยะสั้นๆ และในขณะนี้ กนง.ยังให้ความสำคัญกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการเพิ่มรายได้ของประชาชนมากกว่า จึงยังไม่เห็นความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงอยู่ต่อไป เพราะยังมีผลต่อเศรษฐกิจได้ทุกเมื่อ ราคาพลังงานโลกที่สูงต่อเนื่อง การส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นต่อการคาดการณ์เงินเฟ้อและค่าครองชีพของประชาชน รวมทั้งความเพียงพอของมาตรการการคลังและมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อ”.