กสิกรไทยตั้งเป้าปี 65 ดันสินเชื่อโต 6-8% ผนึกพันธมิตร Tech ลุย AEC+3

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กสิกรไทยตั้งเป้าปี 65 ดันสินเชื่อโต 6-8% ผนึกพันธมิตร Tech ลุย AEC+3

Date Time: 28 ม.ค. 2565 16:42 น.

Video

ดร.พิพัฒน์ KKP กระเทาะโจทย์เศรษฐกิจไทย บุญเก่าเจอความเสี่ยง บุญใหม่มาไม่ทัน

Summary

  • กสิกรไทย ตั้งเป้าปี 65 ดันสินเชื่อโต 6-8% ยืนหนึ่งในบริการดิจิทัลต่อเนื่อง ผนึกพันธมิตรด้านเทคโนโลยีสร้างการเติบโตใน AEC+3

กสิกรไทย ตั้งเป้าปี 65 ดันสินเชื่อโต 6-8% ยืนหนึ่งในบริการดิจิทัลต่อเนื่องผนึกพันธมิตรด้านเทคโนโลยีสร้างการเติบโตใน AEC+3

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 65 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวว่า สถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 65 มีแนวโน้มขยายตัวดีกว่าปี 64 โดยมีแรงหนุนต่อเนื่องจากการส่งออกและการทยอยฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ จะเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

แม้เศรษฐกิจภาพรวมจะยังเผชิญความไม่แน่นอนหลายประการ จากการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ ภายใต้ทิศทางเศรษฐกิจและปัจจัยความท้าทายดังกล่าว ธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศเป้าหมายทางการเงินปี 2565 ดังนี้

- การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ (Loan Growth) ที่ 6-8% จากการเติบโตสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าบุคคลและกลุ่มลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี โดยเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ในการปล่อยสินเชื่อ (Data Analytics) การร่วมมือกับพันธมิตร

รวมถึงการเติบโตสินเชื่อในภูมิภาค AEC+3 อีกทั้ง ธนาคารยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สินเชื่อลูกค้าบุคคลคาดว่าจะเติบโต 9-11% สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีคาดว่าจะเติบโต 4-6% และสินเชื่อบรรษัทธุรกิจคาดว่าจะเติบโต 1-3%

- ผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net Interest Margin:NIM) ที่ 3.15-3.30% สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย

- รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ (Net Fee Income Growth) เติบโตคงที่ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปส่งผลต่อรายได้ค่าธรรมเนียมรับจากการทำธุรกรรม และจากฐานรายได้ค่าธรรมเนียมในปี 2564 ที่สูงตามภาวะตลาด

- ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to Income Ratio) คาดว่าจะอยู่ในระดับ Low to Mid-40s จากรายได้ที่เติบโตสอดคล้องกับการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ธนาคารจึงยังคงให้ความสำคัญกับการจัดการต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพ (Productivity) อย่างต่อเนื่อง

- เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Ratio (Gross)) ที่ 3.7-4.0% โดยโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อคุณภาพเงินให้สินเชื่อ ทั้งนี้ ธนาคารมีการบริหารความเสี่ยงเชิงรุก และนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ในการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารจะทยอยฟื้นตัวขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น

- Credit Cost คาดว่าจะอยู่ในระดับไม่เกิน 160 bps โดยธนาคารยังคงใช้หลักความระมัดระวังและนโยบายทางการเงินที่รอบคอบในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 65 ธนาคารกสิกรไทยยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน และมุ่งมั่นในการเพิ่มอำนาจให้ทุกชีวิตและธุรกิจของลูกค้าในทุกๆ กลุ่มอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดูแลลูกค้าให้ผ่านภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจากผลกระทบของโควิด-19 และสามารถเดินหน้าในการทำธุรกิจและดำเนินชีวิตต่อไปได้ในภาวะปกติใหม่ โดยกำหนดหลักการทำงานสำคัญ 3 ประการ

ได้แก่ การดำเนินงานตามหลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล/เศรษฐกิจ (ESG) การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง (Strong Brand) และการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันในโลกธุรกิจที่มีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นตัวนำ (Beyond Banking and Innovation)

ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจธนาคารให้สามารถตอบโจทย์การให้บริการที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และสภาพแวดล้อม ได้อย่างทันท่วงที โดยธนาคารกสิกรไทยกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจและตอบโจทย์ลูกค้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ