ก็เป็นไปตามความคาดหมาย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงาน ก.ล.ต. กระทรวงการคลัง ร่วมกันแถลงข่าว การเข้าไปกำกับดูแล “ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล” ที่กำลังฮอตฮิต โดยเฉพาะ Cryptocurrency “เงินเข้ารหัส” ที่กำลังได้รับความนิยมจากคน
รุ่นใหม่ มีการเปิดบัญชีซื้อขายกว่า 3 ล้านบัญชี มีการออกสินทรัพย์ฯใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบการฯก็ขยายบริการเพิ่มขึ้น เช่น ใช้เงิน
คริปโตเคอร์เรนซีชำระสินค้าและบริการ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์เกือบ 20 ราย ที่ประกาศรับเงินคริปโตเคอร์เรนซีสกุลต่างๆกว่า 10 สกุล ชำระการซื้อคอนโดมิเนียมได้
จึงเป็นเหตุให้ แบงก์ชาติ ก.ล.ต. กระทรวงการคลัง เร่งตัดสินใจเข้ากำกับดูแล การนำ สินทรัพย์ดิจิทัล มาใช้เป็น สื่อกลาง ในการ ชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment)
ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ กล่าวว่า การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการอย่างแพร่หลาย ในขณะนี้ จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศ จึงควรมีการกำกับดูแลที่ชัดเจน แต่เทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าว ควรได้รับการสนับสนุน โดยมีกลไกดูแลที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดนวัตกรรมและประโยชน์ต่อประชาชน
คุณรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต.เปิดเผยว่า ก.ล.ต. กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็น เรื่อง หลักเกณฑ์การกำกับดูแลผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัล ในการจำกัดการให้บริการในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล
จะเปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่ 25 ม.ค.ถึง 8 ก.พ.เป็นวันสุดท้าย
ช่วงที่ผ่านมา ธปท. ก.ล.ต. กระทรวงการคลัง เห็นว่า ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจในลักษณะ การให้บริการ ชักชวน หรือ แสดงตนว่าพร้อมจะให้บริการแก่ร้านค้า และ ผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการ ชำระค่าสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินและระบบเศรษฐกิจโดยรวม อาจก่อให้เกิด “หน่วยวัดมูลค่า” (Unit of Account) ที่นอกเหนือจาก “สกุลเงินบาท” อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการดูแลรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงิน ที่ผ่านมา ธปท. ก็ไม่อนุญาตให้ผู้ให้บริการการชำระเงิน ทั้ง ธนาคารพาณิชย์ และ ผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. ให้บริการที่ เกี่ยวข้องกับการชำระราคาด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล
ก็ชัดเจนครับ เมื่อมีหลักเกณฑ์ใหม่กำกับแล้ว เงินดิจิทัล Crypto currency จะไม่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้อีกต่อไปแต่ ลงทุนซื้อขายในตลาด Exchange ได้ ไม่งั้นอีกหน่อยไปซื้อสินค้าหรือบริการอาจถูกถามว่าจะจ่ายเป็น เงินบาท หรือ คริปโตฯ
จากเงินดิจิทัลต่อด้วยเงินบาทครับ วันนี้ 28 มกราคม วารสารการเงินธนาคาร เปิดงาน มหกรรมการเงิน Money Expo ระยอง ครั้งที่ 3 ที่ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง เวลา 10.00-20.00 น. ตั้งแต่ 28-30 มกราคม ซึ่งเลื่อนมาจัดในช่วงนี้เพื่อให้ ชาวระยอง และ ประชาชนในภาคตะวันออก ได้เข้าถึง สินเชื่อและบริการทางการเงินการลงทุนอย่างครบวงจร พร้อมโปรโมชันพิเศษมากมายจาก ธนาคารรัฐ ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน เช่น สินเชื่อบ้าน 0.99% สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจเอสเอ็มอี ดอกเฉลี่ย 2% สินเชื่อบุคคล ดอกเริ่มต้น 0% ประกันชีวิต ประกันภัย สลากออมทรัพย์ สลากดิจิทัล ฯลฯ
ช่วงนี้ เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นไข้ รัฐบาลผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจก็เป็นจังหวะดีที่ วารสารการเงินธนาคาร จัดงาน มหกรรมการเงิน Money Expo ระยอง ครั้งที่ 3 ขึ้นที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง ใครต้องการ สินเชื่อธุรกิจ เงินทุนหมุนเวียน สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล การลงทุนครบวงจร ไปเลือกใช้บริการได้จากทุกธนาคารและสถาบันการเงินที่ร่วมออกบูธครับ ทุกฝันเป็นจริงได้ที่นี่.
“ลม เปลี่ยนทิศ”