ธปท.เผย คลินิกแก้หนี้ปรับเกณฑ์ใหม่ ให้ครอบคลุมถึงลูกหนี้ที่มีสถานะเป็น NPL ก่อน 1 ต.ค. 64
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 64 นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ดำเนินการปรับเกณฑ์เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในโครงการฯ และผู้สมัครรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การออกมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 3 สูตรจ่ายเท่าที่ไหว ช่วง ก.ค. 64 ที่ผ่านมา ที่ให้ลูกหนี้ที่ชำระหนี้ไม่น้อยกว่า 40% ของค่างวดตามสัญญาจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 1-2% ต่อปี
รวมทั้งได้ปรับกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกแก่ลูกหนี้ เช่น ลูกหนี้สามารถสมัครและส่งเอกสารผ่านเว็บไซต์ และเมื่อได้รับอนุมัติจะเริ่มปรับโครงสร้างหนี้ได้ โดยส่งภาพหลักฐานการตอบรับเงื่อนไขและเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางที่กำหนด
ควบคู่กับการส่งเอกสารตัวจริงทางไปรษณีย์ รวมทั้งลูกหนี้ในโครงการฯ สามารถตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรได้ที่สำนักงานโครงการคลินิกแก้หนี้ นอกจากนี้ สำหรับลูกหนี้รายใหม่ที่เข้าโครงการฯ ยังปรับอัตราดอกเบี้ยให้เหลือเพียงอัตราเดียวที่ร้อยละ 5 ต่อปี
ล่าสุด จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและรายได้ของประชาชนอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ หรือ กคน. จึงมีมติเห็นชอบให้ปรับเกณฑ์คุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ เพื่อขยายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน จากเดิมที่ต้องมีสถานะเป็นหนี้เสีย หรือ NPL ก่อนวันที่ 1 ก.พ. 64 เป็นก่อนวันที่ 1 ต.ค. 64 โดยมีผลตั้งแต่ 17 พ.ย. 64
สำหรับผลการดำเนินงานของโครงการคลินิกแก้หนี้ ณ สิ้นเดือน ต.ค. 64 มีลูกหนี้เข้าโครงการจำนวน 22,011 ราย รวม 68,071 บัญชี ภาระหนี้เงินต้นตามสัญญา 5,163 ล้านบาท โดยเฉลี่ยลูกหนี้ 1 ราย มีเจ้าหนี้ 2 ราย เงินต้นเฉลี่ยคงเหลือ 238,198 บาท ส่วนผลของมาตรการช่วยเหลือสูตรจ่ายเท่าที่ไหว พบว่ามีลูกหนี้ 84% สามารถชำระได้เกินกว่า 40% ของค่างวดตามสัญญา.