เงินหายจากบัญชีจบแล้ว แบงก์คืนเงินลูกค้าเดบิตครบ บัตรเครดิตทยอยยกเลิกรายการ

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เงินหายจากบัญชีจบแล้ว แบงก์คืนเงินลูกค้าเดบิตครบ บัตรเครดิตทยอยยกเลิกรายการ

Date Time: 24 ต.ค. 2564 10:57 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • แบงก์ชาติ และสมาคมธนาคารไทย เผยความคืบหน้ากรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิต และบัตรเดบิต ระหว่างวันที่ 1-17 ต.ค. 64 พร้อมคืนเงินลูกค้าบัตรเดบิตครบทุกราย

Latest


แบงก์ชาติ และสมาคมธนาคารไทย เผยความคืบหน้ากรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิต และบัตรเดบิต ระหว่างวันที่ 1-17 ต.ค. 64 พร้อมคืนเงินลูกค้าบัตรเดบิตครบทุกราย ส่วนบัตรเครดิตยังตั้งพักเงินเพื่อตรวจสอบ และทยอยยกเลิกรายการ โดยลูกค้าไม่ต้องจ่ายเงินและไม่มีการคิดดอกเบี้ย

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และ สมาคมธนาคารไทย ทำได้ทำหนังสือชี้แจงโดยระบุว่า จากรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้า โดยเกิดจากมิจฉาชีพสุ่มข้อมูลบัตรและนำไปสวมรอยทำธุรกรรม โดยพบว่าระหว่างวันที่ 1-17 ต.ค. 64 มีบัตรของธนาคารจำนวน 10,700 ใบ ถูกนำไปทำธุรกรรมลักษณะดังกล่าว มูลค่ารวมประมาณ 130 ล้านบาทนั้น

ล่าสุด แต่ละธนาคารมีระบบการตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติตามลักษณะประเภทร้านค้าและประเภทสินค้าอยู่แล้ว จากเหตุการณ์ดังกล่าว ธนาคารจึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันและดำเนินการแก้ปัญหาไปแล้ว โดย ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ขอชี้แจงการดำเนินการเพิ่มเติมล่าสุดของธนาคาร ดังนี้

1. วันศุกร์ที่ 22 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ธนาคารได้คืนเงินให้แก่ลูกค้าบัตรเดบิตที่ได้รับความเสียหายในกรณีข้างต้นครบทุกรายแล้ว ในส่วนของบัตรเครดิตได้ดำเนินการตั้งพัก เร่งตรวจสอบ และยกเลิกรายการ โดยลูกค้าไม่ต้องชำระเงินตามยอดเรียกเก็บที่ผิดปกติและไม่มีการคิดดอกเบี้ย

2. ธนาคารได้ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนเรียบร้อยแล้ว ได้แก่

- ตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ ให้ครอบคลุมธุรกรรมที่มีจำนวนเงินต่ำและที่มีความถี่สูง

- ติดตามเฝ้าระวังรายการธุรกรรมจากต่างประเทศเป็นพิเศษ

- แจ้งเตือนลูกค้าในการทำธุรกรรมทุกรายการตั้งแต่รายการแรก

- ประชาสัมพันธ์วิธีการป้องกันความเสี่ยง เช่น การปรับวงเงินในบัตรให้เหมาะสมกับการใช้จ่าย หลีกเลี่ยงการผูกบัตรกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่ไม่น่าไว้ใจ ทำให้ปริมาณธุรกรรมผิดปกติในลักษณะดังกล่าวลดลงมาก โดยธนาคารจะติดต่อสอบถามลูกค้าเพิ่มเติมกรณีพบรายการต้องสงสัย

ทั้งนี้ หากพบความเสียหายเพิ่มเติมจากกรณีข้างต้น ลูกค้าบัตรเดบิตจะได้รับการคืนเงินภายใน 5 วันทำการ

นอกจากนี้ ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ได้หารือแนวทางเพื่อผลักดันให้ผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรทุกราย กำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการบังคับใช้การยืนยันตัวตนก่อนทำรายการชำระเงินกับบัตรเดบิตสำหรับทุกร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะร้านค้าในต่างประเทศ

เช่น การใช้ระบบการยืนยันตัวตนของเครือข่ายบัตร ที่ให้ลูกค้าหรือผู้ซื้อต้องยืนยันตัวโดยใส่เลข OTP ก่อนร้านค้าทำการตัดบัญชี ซึ่งเป็นการดูแลความปลอดภัยที่เข้มกว่ามาตรฐานสากลที่เครือข่ายบัตรกำหนดไว้ รวมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการความเสี่ยงในการทำธุรกรรมของลูกค้า โดยนำเทคโนโลยีใหม่มาสนับสนุนการจัดการใช้ป้องกันและตรวจจับภัยคุกคามทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ขอเรียนว่าระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีการบริหารความเสี่ยงสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และธนาคารร่วมกับชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริตชมรมบัตรเครดิตและศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคธนาคาร (TB-CERT) ในการพัฒนาระบบป้องกันให้เท่าทันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ และร่วมกันสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการทางการเงินดิจิทัลเพื่อให้ประชาชนเข้าใจและเพิ่มความระมัดระวังการทำธุรกรรมออนไลน์

เช่น การทำธุรกรรมกับแพลตฟอร์มที่ไม่มีการยืนยันตัวตนก่อนใช้งาน หรือไม่มีการใช้ OTP รวมทั้งหมั่นตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่จะกระทำการทุจริตทางการเงินใดๆ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้มากขึ้นต่อไป ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทางบริการต่างๆ ของธนาคาร หรือที่ ธปท. ได้ทันที.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ