ระทึกค่าบาทสิ้นปีนี้ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ “กสิกรไทย” ชี้ต่างชาติเทขายตราสารหนี้

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารยังประเมินค่าเงินบาทสิ้นปีนี้ไว้ที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าปัจจุบันค่าเงินบาทจะอ่อนค่าทะลุ 33.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯไปแล้ว โดยค่าเงินบาทได้อ่อนค่ามากถึง 10.3% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการที่ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเกิดการขาดดุลจากภาคการท่องเที่ยวที่หายไป และมีเงินไหลออกจากประเทศไปส่วนหนึ่ง ประกอบกับ การที่ขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ทำให้ต่างชาติมีการลดการถือครองตราสารหนี้ ซึ่งจะเห็นว่าต่างชาติเริ่มซื้อตราสารหนี้ลดลงจากเดิมที่ซื้อ 87,000 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอีก

“ตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ เงินจะไหลเข้ามามากกว่าไหลออก ก่อนหน้านี้เงินไหลเข้ามาตลาดสารหนี้มากกว่า ต่างชาติซื้อ 87,000 ล้านบาท แต่ตอนนี้ฐานะการคลังแย่ลง กู้มากขึ้น ต่างชาติเลยเทขายตราสารหนี้ เพราะกังวลเรื่องหนี้ และขณะนี้ต่างชาติก็ซื้อหุ้นมากกว่าตลาดตราสารหนี้ไปแล้ว”

ทั้งนี้ กรณีที่รัฐขยายวงเงินเพดานหนี้สาธารณะของไทยเป็น 70% เป็นการใช้นโยบายทางการคลังเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังต้องติดตามว่าการกู้ยืมเงินของรัฐบาลจะสามารถนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และในอนาคตก็ต้องติดตามเรื่องของการเพิ่มรายได้เข้ารัฐ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคงประมาณการติดลบ 0.5% แต่อาจจะทบทวนประมาณการอีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ โดยยังต้องติดตามในเรื่องของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการเมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ เริ่มลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่.