ธนาคารกรุงเทพ เดินหน้าอัปเดตฟีเจอร์ Bangkok Bank Mobile Banking รับเทรนด์การทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟนครอบคลุมทั้งกลุ่มลงทุน ธุรกรรม และดิจิทัลไลฟ์สไตล์
เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 64 นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคต้องการจัดการธุรกรรมต่างๆ ด้วยตนเองผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องไปสาขา ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทยที่พบว่าในไตรมาสแรกของปี 2564 คนไทยทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง มากกว่า 3,200 ล้านรายการ หรือเพิ่มขึ้นราว 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นถึง 88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมีมูลค่าการทำธุรกรรมรวมกันกว่า 11 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การเติบโตของโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ มียอดผู้สมัครใช้งาน ณ สิ้นปี 2563 เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 17% และมียอดการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มเติบโตขึ้น 60% โดยคาดว่าจำนวนผู้ใช้งานในสิ้นปี 2564 นี้ จะเติบโตได้ 30% หรือมีจำนวนผู้ใช้งานรวมกว่า 13 ล้านราย ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
ล่าสุด Bangkok Bank Mobile Banking หรือ โมบายแบงก์กิ้งของธนาคารกรุงเทพ ทำการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่เพื่อเติมเต็มประสบการณ์และตอบโจทย์การใช้งานด้านต่างๆ ได้ดีและครอบคลุมยิ่งขึ้น ดังนี้
1. ลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยบริการเปิดบัญชีกองทุนรวม สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ใช้โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ช่วยให้สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้อย่างรวดเร็ว ทั้งกองทุนเปิดทั่วไปและกองทุนลดหย่อนภาษี ของ บลจ.บัวหลวง และ บลจ.บางกอกแคปปิตอล รวมถึงซื้อกองทุนครั้งแรก (1st Time Buy) และกองทุนที่เสนอขายในช่วง IPO ได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องไปที่สาขา
สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์แบบไร้ใบตราสาร นอกจากลูกค้าจะสามารถจองซื้อพันธบัตรรุ่นใหม่ได้ด้วยตนเอง ธนาคารยังเพิ่มฟีเจอร์ แสดงรายละเอียดการลงทุนบัญชีพันธบัตร ให้ลูกค้าเรียกดูข้อมูลพันธบัตรรุ่นที่ถือครอง และประวัติการทำรายการได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปปรับสมุดพันธบัตรที่สาขา
2. ทำธุรกรรมระหว่างประเทศด้วย บริการโอนเงินต่างประเทศ ทั้งการโอนผ่านระบบ SWIFT ที่เลือกโอนได้มากถึง 17 สกุลเงิน ครอบคลุม 124 ประเทศทั่วโลก วงเงินสูงสุดถึงวันละ 1.5 ล้านบาท ในอัตราค่าธรรมเนียมถูกกว่าการใช้บริการที่สาขา ทั้งยังทำรายการได้ทันทีโดยไม่ต้องสมัครบริการหรือยื่นเอกสารประกอบ
นอกจากนี้ บริการ บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) ได้ขยายบริการเพิ่มเติมให้สามารถโอนเงินระหว่างบัญชีสกุลเงินบาทและบัญชี FCD ของตนเองได้มากถึง 14 สกุลเงิน สูงสุดถึง 3 ล้านบาท/รายการ โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อวัน ช่วยให้ลูกค้าบริหารกระแสเงินสดและความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนได้ดียิ่งขึ้น
3. เพิ่มความสะดวกสบาย มอบประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ราบรื่น ไม่มีสะดุด แม้จะเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและเปิดใช้งานอีกครั้ง (Re-activate) ได้อย่างปลอดภัย เพียงใช้เลขบัญชีหรือหมายเลขบัตรเดบิต
พร้อมยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า ผ่านแอปได้ทันที ไม่ต้องไปสาขาหรือเครื่องเอทีเอ็ม พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เข้าใจคุณมากกว่าเดิม ทั้งบริการเตือนเพื่อจ่ายบิล (Bill Alert) ช่วยให้ไม่พลาดทำรายการชำระบิลต่างๆ การปรับปรุงบันทึกช่วยจำ ให้สามารถแยกหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ พร้อมใส่สติกเกอร์ อีโมจิและอักขระพิเศษได้
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เพื่อต้อนรับการเปิดประเทศด้วยบริการ ซื้อประกันภัยการเดินทาง (Travel Insurance) ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ พร้อมรับเอกสารกรมธรรม์ผ่านทางอีเมลได้หลังจากทำรายการเสร็จเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าด้วยการ เปิดบัญชีเงินฝาก e-Savings ได้ด้วยตัวเอง ทุกที่ ทุกเวลา สำหรับลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพมาก่อนสามารถดาวน์โหลดโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และเปิดบัญชีออนไลน์ บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ e-Savings โดยไม่มีกำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำ
และบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ได้เลย โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีสำหรับปีแรก (ตั้งแต่ 11 ม.ค. 64 - 31 ธ.ค. 64) และสามารถยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนที่จุดบริการ Be My ID ของธนาคารทุกสาขาหรือ ร้าน Kerry Express ทั่วประเทศ.