ยูโร 2020 กร่อยสุดรอบ 10 ปี เงินไหลออกพนันนอกประเทศ

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ยูโร 2020 กร่อยสุดรอบ 10 ปี เงินไหลออกพนันนอกประเทศ

Date Time: 23 มิ.ย. 2564 08:24 น.

Summary

  • ยูโร 2020 กร่อยสุดในรอบ 10 ปี เม็ดเงินสะพัด 6.2 หมื่นล้านบาท แต่เป็นเงินนอกระบบ (พนัน) กว่า 4.5 หมื่นล้านบาท และแทบไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเงินพนันโอนไปต่างประเทศเกือบหมด

Latest

ปลดล็อกเรื่องภาษี!

ยูโร 2020 กร่อยสุดในรอบ 10 ปี เม็ดเงินสะพัด 6.2 หมื่นล้านบาท แต่เป็นเงินนอกระบบ (พนัน) กว่า 4.5 หมื่นล้านบาท และแทบไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเงินพนันโอนไปต่างประเทศเกือบหมด ทำเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นได้ 0.3% “ธนวรรธน์” แนะเพิ่มเงิน “คนละครึ่ง” อีก 1,500 บาท ปัดฝุ่น “ช้อปดีมีคืน” หลังคนเมิน “ยิ่งใช้ยิ่งได้”

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงฟุตบอลยูโร 2020 ที่สำรวจตัวอย่าง 1,200 คนทั่วประเทศ วันที่ 15-18 มิ.ย.64 ว่า คาดจะมีมูลค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 62,440 ล้านบาท ลดลง 20.3% เมื่อเทียบกับฟุตบอลโลก 2018 ที่ใช้จ่าย 78,386 ล้านบาท เป็นมูลค่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี นับจากฟุตบอลโลก 2010 ที่มีการใช้จ่าย 59,700 ล้านบาท

โดยมูลค่าใช้จ่ายที่ 62,440 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วนคือการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ 15,202 ล้านบาท ลดลง 15.1% จากฟุตบอลโลก 2018 ที่ใช้จ่ายในระบบ 17,902 ล้านบาท ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หรือต่ำสุดในรอบ 15 ปี นับจากเริ่มสำรวจมาตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2006 และเป็นการใช้จ่ายนอกระบบ (พนันบอล) อีก 45,840 ล้านบาท ลดลง 22.3% เทียบกับฟุตบอลโลก 2018 ที่มีเงินพนัน 58,996 ล้านบาท

สำหรับมูลค่าใช้จ่ายดังกล่าว ส่วนใหญ่จะซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/อุปกรณ์รับสัญญาณ, ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า, พนันบอล, ซื้ออาหาร/เครื่องดื่ม และซื้ออุปกรณ์กีฬา โดยการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนลดลง 38.2% จากบอลโลก 2018 ขณะที่พฤติกรรมการเล่นพนัน ผู้ตอบมากถึง 65.2% เล่นพนัน แต่ส่วนใหญ่เล่นเฉพาะทีมที่ชอบ มีเพียงเล็กน้อยที่เล่นทุกนัด โดยเล่นพนันแต่ละนัด 1,001-5,000 บาท หรือเฉลี่ยต่อนัดที่ 3,807 บาท โดยจะเล่นพนันผ่านเว็บไซต์พนันมากสุด ตามด้วยเล่นกันเองกับคนรู้จัก/เพื่อน และโต๊ะบอล 

“บอลยูโร 2020 มีผลช่วยกระตุ้นการจับจ่าย และเศรษฐกิจไม่ได้มากนัก เพราะมีเงินเข้าสู่ระบบเพียง 15,200 ล้านบาท แม้จะมีเงินจากการเล่นพนันมากถึงกว่า 45,000 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่เป็นการ เล่นพนันออนไลน์กับเว็บไซต์ที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ เงินก็จะโอนออกไปต่างประเทศ อาจมีบางส่วน หรือราว 10,000-15,000 ล้านบาทตกอยู่ในประเทศ ซึ่งเมื่อรวมๆแล้ว ครั้งนี้อาจมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบจริงราวๆ 30,000 ล้านบาท มีผลทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นได้ 0.3% หรือทำให้ทั้งปีเพิ่มขึ้นได้อีก 1%”

นอกจากนี้ ยังได้สอบถามเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ส่วนใหญ่ 62.5% ตอบยังไม่ได้ฉีด มีเพียง 37.5% ที่ฉีดแล้ว โดยพื้นที่ที่ฉีดแล้วมากสุดคือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคกลาง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายคึกคัก ส่วนภาคอื่นๆ ยังไม่เชื่อมั่น โดยเฉพาะเมื่อเกิดการระบาดของสายพันธุ์กลายพันธุ์จากอินเดีย และแอฟริกาใต้มากขึ้น

ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ และยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นลดลงกว่าเดิม
นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญขณะนี้คือการเร่งกระจายการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้พร้อมเปิดประเทศภายใน 120 วัน คือเร่งฉีดภายในเดือน ก.ค.-ก.ย.นี้ ยิ่งฉีดมากยิ่งมั่นใจมาก จากปัจจุบันยังเห็นภาพคนติดเชื้อมากถึงวันละ 3,000-4,000 คน จากเดิมที่คาดยอดคนติดเชื้อจะค่อยๆลดลงเหลือไม่ถึงวันละ 1,000 คน

นอกจากนี้ ยังต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพมากพอ แต่มาตรการคนละครึ่ง และยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่มีผู้ลงทะเบียนน้อย อาจเป็นเพราะคนละครึ่ง มีเม็ดเงินที่รัฐให้น้อยไปเพียง 1,500 บาท ภาคเอกชนจึงเสนอให้รัฐเพิ่มเงินให้เป็น 3,000 บาท ส่วนยิ่งใช้ยิ่งได้ที่คนอาจเห็นว่าการใช้ยุ่งยากและไม่ต้องการใช้สิทธิ์ ภาคเอกชนจึงเสนอให้รัฐบาลปัดฝุ่น “ช้อปดีมีคืน” มากกว่า เพราะมีผลกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่า เร็วกว่า.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ