ทีเอ็มบีธนชาต พร้อมให้บริการการชำระเงินแก่ภาครัฐ หรือ E-Government Payment ผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารงานให้แก่ลูกค้าธุรกิจ และผู้ประกอบการ SME
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 64 นางกนกพร จูฑา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกรรมทางการเงินภายในประเทศ ธนาคาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb กล่าวว่า ปัจจุบันหลายหน่วยงานของภาครัฐได้มีการยกระดับการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มมีโครงการต่างๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าธุรกิจและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
ไม่ว่าจะเป็น การชำระเงินให้กับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐผ่านช่องทางดิจิทัล การคืนเงินภาษีผ่านทางพร้อมเพย์ การให้ธนาคารเป็นตัวแทนหักและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยในปีที่ผ่านมามีจำนวนลูกค้าธุรกิจของทีเอ็มบีธนชาต มาสมัครใช้งานผ่านช่องทางดิจิทัลของธนาคารเพิ่มขึ้นกว่า 30% และมีจำนวนรายการทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นกว่า 20%
ทั้งนี้ ทีเอ็มบีธนชาต เล็งเห็นถึงความสำคัญและมีความตั้งใจที่จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของลูกค้าธุรกิจและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พร้อมร่วมมือกับภาครัฐในการพัฒนาดิจิทัลโซลูชันเพื่อการชำระเงินให้แก่ภาครัฐ หรือ E-Government Payment ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาลูกค้าธุรกิจทั้งเรื่องต้นทุน เรื่องเวลาและเรื่องเอกสาร โดยธนาคารจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการดำเนินการจ่าย หรือชำระเงินแทนผู้ประกอบการให้กับภาครัฐ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง โดยมีบริการหลักๆ ได้แก่
1. e-Tax (RD) ซึ่งประกอบไปด้วย บริการชำระภาษีกรมสรรพากรสำหรับภาษีนิติบุคคลทุกประเภท และทราบผลการชำระเงินผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรทันที และบริการหักภาษีและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย (e-Withholding Tax)
2. e-SSO บริการจ่ายสำนักงานประกันสังคม สำหรับเงินสมทบกองทุนประกันสังคมมาตรา 33 และกองทุนเงินทดแทน รวมทั้งเงินเพิ่มตามกฎหมาย (ค่าปรับกรณีชำระเงินล่าช้า)
3. e-Student Loan บริการจ่ายเงินคืนกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาหรือ กยศ. ที่นายจ้างต้องหักจากลูกจ้างและนำส่งให้ทุกเดือน
4. e-Excise บริการจ่ายภาษีสรรพสามิต สำหรับธุรกิจเฉพาะ เช่น ภาษีสุรา แสตมป์ ยาสูบ และภาษีเฉพาะ อื่นๆ ที่จ่ายกับกรมสรรพสามิต
5. e-Customs บริการสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกที่จ่ายภาษีให้กับกรมศุลกากร
6. e-ORRAF บริการชำระค่าธรรมเนียมการส่งยางออกไปต่างประเทศ โดยจ่ายกับการยางแห่งประเทศไทย
โดยการชำระเงินให้ภาครัฐผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งลักษณะนี้ จะเป็นการชำระเงินแบบเรียลไทม์ และได้รับใบเสร็จหลังการทำรายการทันที ลูกค้าสามารถเรียกดูรายงานได้ตลอดเวลาผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง สามารถทำรายการชำระเงินภายในวันเดียวกัน หรือ กำหนดวันและเวลาชำระเงินล่วงหน้าได้ ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์หลักๆ คือการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจ เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการจัดการเอกสาร ลดความผิดพลาดในการทำรายการ สามารถตรวจสอบรายการได้ และเป็นการทำธุรกรรมที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ทีเอ็มบีธนชาต ในฐานะธนาคารผู้นำด้านดิจิทัลโซลูชันเพื่อลูกค้าธุรกิจ มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจให้แก่องค์กรไทย โดยเดินหน้าพัฒนาดิจิทัลโซลูชันอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะพัฒนาระบบการให้บริการร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับการบริหารงานของลูกค้าธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่การสร้างการเติบโตของลูกค้าธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไป (Financial Well-being)