เศรษฐกิจไทยในทิศทางที่มืดมน

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เศรษฐกิจไทยในทิศทางที่มืดมน

Date Time: 21 พ.ค. 2564 05:01 น.

Summary

  • สภาพัฒน์ลดขนาดของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ในปีนี้เหลือร้อยละ 2 กว่าๆ จากที่คาดกันว่า จะมากกว่าร้อยละ 3 (อ้างว่าตัวเลขการส่งออกดีขึ้น) สาเหตุมาจาก โควิด-19 รอบที่สาม

Latest

ปลดล็อกเรื่องภาษี!

สภาพัฒน์ลดขนาดของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ในปีนี้เหลือร้อยละ 2 กว่าๆ จากที่คาดกันว่า จะมากกว่าร้อยละ 3 (อ้างว่าตัวเลขการส่งออกดีขึ้น) สาเหตุมาจาก โควิด-19 รอบที่สาม เมื่อเทียบกับการส่งออกที่ส่วนใหญ่เป็นสินค้าด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์และอาหาร ผลไม้ การนำเข้ายา วัคซีน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ก็มีจำนวนไม่น้อย งบประมาณส่วนใหญ่ต้องยอมรับว่าในระยะเวลาปีกว่าๆที่โควิด-19 ระบาด มีการถ่ายโอนงบประมาณจากส่วนต่างๆมาใช้ในภาวะฉุกเฉินจำนวนมากเช่นกัน

และที่แน่ๆคือ งบเงินกู้ ที่นำมาใช้ในการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ กระทรวงการคลัง อ้างว่าเป็นงบเงินกู้จำนวน 1 ล้านล้านบาท โควิด-19 รอบสอง รอบที่สาม ก็ยังอ้างตัวเลขเงินกู้จำนวนนี้ อันที่จริงรัฐบาลควรจะแจกแจง งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่ายา ค่าหมอ ค่าวัคซีน ค่าอุปกรณ์และการเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ ในฐานะที่ประชาชนจะเป็นคนแบกรับหนี้เงินกู้จำนวนนี้ ก็ควรจะได้รับทราบข้อเท็จจริงบ้าง

งบประมาณรายจ่ายปี 2565 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในปลายเดือนนี้ งบขาดดุลจำนวน 3.1 ล้านล้านบาท อาจจะลดลงจากปีที่ผ่านมาบ้างเล็กน้อย โฟกัสก็ยังไปที่งบประจำและงบผูกพันของแต่ละกระทรวง รัฐพยายามจะบอกว่า งบกระทรวงทางสังคม เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ไม่มีการตัดลดงบประมาณ แต่เมื่อนำจำนวนงบประมาณที่แต่ละกระทรวงได้รับมาเปรียบเทียบกันแล้วก็ยังได้รับงบประมาณที่น้อยกว่ากระทรวงหลักๆอยู่ดี

กระทรวงกลาโหมและงบกลาง ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกโฟกัสมากที่สุดเป็นประจำทุกปี พรรคการเมืองฝ่ายค้าน มีการเอาไปเปรียบเทียบระหว่าง งบกลาโหมกับ งบสาธารณสุข โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้คงไม่มีประเทศไหนมีใจที่จะทำสงคราม แต่ละประเทศมุ่งที่จะเอาชนะโควิดกันอย่างเดียว และโควิดก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่า เป็นมหันตภัยสำหรับมนุษยชาติ ขนาดไหน

มีรายงานข่าวจาก กระทรวงเกษตรฯ ที่มี เฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นว่าการ อ้างว่าในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้รับงบโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 384 รายการ กรอบวงเงิน 4,224.82 ล้านบาทจากที่เฉลิมชัยขอไป 16,795 ล้านบาท เป็นโครงการที่ขอใช้จ่ายเงินกู้ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในกลุ่มที่ 3 ที่มีวงเงินสำรองที่ 355,000 ล้านบาท

โครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้ผลแค่ไหนคงไม่วิจารณ์อะไรให้เมื่อยตุ้ม แต่ที่แน่ๆ ยังเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านทุกหย่อมหญ้า เอสเอ็มอีเจ๊ง ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม ปิดกิจการ โรงงานเลิกการผลิต ชาวบ้านตกงาน

เมื่อยังคลำหาจุดจบของโควิด-19 ไม่ได้ การรับมือกับวิกฤติที่จะตามมาก็ยังมองไม่เห็นก้นเหวเช่นกัน เศรษฐกิจของประเทศไทยยังอยู่ในทิศทางที่มืดมนไม่เห็นแม้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ