นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเงื่อนไขของสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟู หรือสินเชื่อซอฟต์โลนระยะที่ 2 ลูกหนี้เก่าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท และลูกหนี้ใหม่ที่ไม่เคยกู้เงินจากสถาบันการเงินที่มีคุณสมบัติตามกำหนด โดยลูกหนี้เก่าให้กู้เพิ่มได้ 30% ของวงเงินสินเชื่อต่อราย เพิ่มขึ้นจากเงื่อนไขของสินเชื่อซอฟต์โลนเก่าที่ให้กู้ได้ไม่เกิน 20% และเปิดโอกาสให้บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ MAI เข้าร่วมโครงการได้ด้วย
ทั้งนี้ ธปท.ได้ปรับเปลี่ยนการคิดอัตราดอกเบี้ย และอายุของสินเชื่อ โดยเงื่อนไขใหม่ให้กู้ยาวขึ้นเป็น 5 ปี และให้คิดดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปีได้ในอัตรา 5% ต่อปี จากเดิมให้กู้ไม่เกิน 2 ปี คิดดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 2% ต่อปี และยังให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามารับประกันสูงถึง 40% ของสินเชื่อรวม ยาว 10 ปี
“ถามว่าดอกเบี้ยสินเชื่อ 5% ต่อปีสูงเกินไปหรือไม่ เรื่องนี้ ธปท.ได้หารือกับภาคเอกชนหลายครั้ง โดยเอสเอ็มอีระบุว่า ดอกเบี้ยเท่าไรไม่สำคัญ แต่ขอให้ได้กู้มากกว่า ซึ่งวงเงินที่ ธปท.ให้สถาบันการเงินกู้เพื่อนำไปปล่อยต่อ ใน 2 มาตรการนี้มีวงเงิน 350,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการสินเชื่อฟื้นฟู 250,000 ล้านบาทและโครงการพักทรัพย์พักหนี้ 100,000 ล้านบาท ในระยะแรก ธปท.จะติดตามความต้องการใช้สินเชื่อของลูกหนี้ของ 2 โครงการที่สามารถถ่ายโอนกันได้ หากโครงการใดมีความต้องการมากกว่า ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ 0-2283-6112”.