"บิ๊กตู่" ถกเครียด "ทีมเศรษฐกิจ" เตรียมออก "มาตรการเยียวยาโควิดรอบใหม่"

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"บิ๊กตู่" ถกเครียด "ทีมเศรษฐกิจ" เตรียมออก "มาตรการเยียวยาโควิดรอบใหม่"

Date Time: 21 เม.ย. 2564 06:01 น.

Summary

  • ครม.อนุมัติขยายผู้รับเงิน 7,000 บาทในโครงการเราชนะอีก 2.4 ล้านคน เพิ่มวงเงินให้อีก 3,042 ล้านบาท ขยายระยะเวลาใช้วงเงินจากไม่เกินวันที่ 31 พ.ค. เป็นวันที่ 30 มิ.ย.2564

Latest

ปลดล็อกเรื่องภาษี!

ครม.อนุมัติขยายผู้รับเงิน 7,000 บาทในโครงการเราชนะอีก 2.4 ล้านคน เพิ่มวงเงินให้อีก 3,042 ล้านบาท ขยายระยะเวลาใช้วงเงินจากไม่เกินวันที่ 31 พ.ค. เป็นวันที่ 30 มิ.ย.2564 “บิ๊กตู่” ถก “ทีมเศรษฐกิจ” หลังประชุม ครม.เสร็จ ยืนยัน คลัง-สคช.พร้อมออกแพ็กเกจมาตรการเยียวยาชุดใหม่ พ.ค.-มิ.ย.นี้ รวมมิตรมาตรการเดิม เพิ่มของใหม่กระตุ้นใช้เงินออม เดินหน้าเปิดประเทศ 1 ก.ค.ตามกำหนดเดิม

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ขยายกลุ่มเป้าหมายและกรอบวงเงินของโครงการเราชนะ เพิ่มอีก 2.4 ล้านคน จากกลุ่มเป้าหมายเดิม 31.1 ล้านคน เป็น 33.5 ล้านคน ซึ่งต้องใช้วงเงินเพิ่มขึ้น 3,042 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นจากกรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 213,242 ล้านบาท และขยายระยะเวลาใช้วงเงินสนับสนุนสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการฯ จากสามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 31 พ.ค.2564 เป็นวันที่ 30 มิ.ย. 2564 และให้กรมบัญชีกลางอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการฯ ตามที่ผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการฯ ได้ใช้จ่ายจริงเป็นรายวัน ส่วนกรณีที่กรมบัญชีกลางโอนเงินให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่สำเร็จ ให้ดำเนินการติดตามเพื่อโอนเงินซ้ำภายในวันที่ 24 ก.ย.2564 ส่วนกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลการทบทวนสิทธิ์ที่อาจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ให้ สศค. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รับแจ้งจากประชาชนภายในวันที่ 13 พ.ค.2564

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการประชุม ครม.ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สอบถามในที่ประชุมถึงมาตรการเยียวยารอบใหม่ โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ ได้กล่าวว่ามีเตรียมๆไว้บ้างแล้ว โดยในส่วนวงเงินกู้ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ณ วันที่ 8 เม.ย.2564 ได้อนุมัติโครงการไปแล้ว 282 โครงการ วงเงิน 759,792 ล้านบาท คงเหลือวงเงิน 240,207 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจเพื่อหามาตรการเยียวยาภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อาทิ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสศช. และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นายสุพัฒนพงษ์เปิดเผยภายหลังการหารือว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ในรอบนี้ โดยคาดว่าจะคลี่คลายลงในเวลา 2 สัปดาห์ เพราะหน่วยงานต่างๆมีประสบการณ์รับมือกับการระบาดในรอบที่ผ่านมาแล้ว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน โดยหากสถานการณ์ สามารถควบคุมได้เร็ว หรือหากคลี่คลายในเวลา 1 เดือน ยังมองว่ากระทบเศรษฐกิจยังไม่มากนัก ซึ่งรัฐบาลจะเร่งหามาตรการต่างๆมาเพิ่มเติมในการประคองและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมาตรการเยียวยานั้น ทางคลัง และ สศช. อยู่ระหว่างจัดทำมาตรการ ซึ่งคาดว่ามาตรการต่างๆจะออกมาเป็นแพ็กเกจได้ในเดือน พ.ค.และเริ่มให้ประชาชนใช้ได้ในช่วงต้นเดือน มิ.ย.นี้

โดยมีทั้งมาตรการใหม่จะเป็นการกระตุ้นการบริโภค โดยเฉพาะมาตรการให้คนเอาเงินออมออกมาใช้ เนื่องจากปัจจุบันประชาชนมีเงินออมกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้คิดมาตรการออกมาแล้วจะเริ่มใช้ในเดือน มิ.ย. ขณะที่มาตรการที่จะทำต่อเนื่องคือ มาตรการคนละครึ่งระยะที่ 3 โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งก็จะเดินหน้าต่อตามที่ได้บอกไว้ ขณะที่มาตรการต่างๆที่จะเพิ่มขึ้นมา เช่น การดูแลข้าราชการผู้มีรายได้น้อย มาตรการต่ออายุการเยียวยาก็ต้องมีบ้าง เช่น เราชนะ หรือ ม.33 เรารักกัน ซึ่งก็ได้มีการหารือกันว่าสำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ก็อาจจะต่ออายุออกไปโดยที่ประชาชนไม่ต้องแย่งกันลงทะเบียน ส่วนจะเป็นรูปแบบเดิมหรือไม่ ให้ไปดูในรายละเอียด

“มาตรการที่จะออกมาในรอบนี้จากวงเงินที่รัฐบาลมีอยู่ประมาณ 300,000 ล้านบาท ยังเพียงพอที่จะใช้ในการเยียวยาและทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยังเหลือเงินอยู่ แต่หากเกิดการระบาดครั้งต่อๆ ไปซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตรงนั้นรัฐบาลก็ต้องเตรียมที่จะกู้เงินเพิ่มโดยมาตรการต่างๆ จะได้ใช้ในเดือน มิ.ย.แต่ประชาชนจะทราบก่อนในเดือน พ.ค.นี้ ส่วนของภาคธุรกิจสามารถไปใช้โครงการ พักทรัพย์ พักหนี้ หรือมาตรการพักชำระหนี้ของ สถาบัน การเงินได้ ขณะที่แผนการเปิดประเทศรัฐบาลยังยืนยันว่าจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้วในวันที่ 1 ก.ค.2564 โดยไม่ต้องกักตัวซึ่งเป็นไปตามกำหนดเดิม ซึ่งจากการไปสำรวจความต้องการที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต ของนักท่องเที่ยวต่างชาติพบว่ายังมีความต้องการที่สูงมาก”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ