ธนาคารกรุงเทพ ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ครอบคลุมผลิตภัณฑ์สินเชื่อทุกประเภท ทั้งลดอัตราดอกเบี้ย ขยายวงเงิน พักชำระหนี้ จนถึงปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ถึง 30 มิ.ย. 64
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.64 นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL กล่าวว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศขยายระยะเวลามาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่
โดยธนาคารกรุงเทพเข้าใจถึงสถานการณ์ที่ทุกคนกำลังเผชิญในขณะนี้ จึงได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ด้วยการขยายระยะเวลาขอรับความช่วยเหลือต่อไปอีก 6 เดือน จนถึง 30 มิ.ย.64 จากเดิมสิ้นสุด 31 ธ.ค.63
ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย จะครอบคลุมลูกค้าบัตรเครดิต ลูกค้าสินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับ ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน เพื่อช่วยลูกค้าลดความวิตกและกังวลใจจากผลกระทบดังกล่าว โดยมีรายละเอียดของมาตรการเพื่อให้ลูกค้าแจ้งขอรับความช่วยเหลือได้ดังนี้
สินเชื่อบัตรเครดิต
เปลี่ยนประเภทเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (Term Loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 12% ต่อปี
ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำให้กับลูกค้าทุกรายโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ เม.ย. 63 จนถึงปี 65 และปรับลดเพดานดอกเบี้ยตั้งแต่ ส.ค. 63 รวมถึงการพิจารณาขยายวงเงินให้แก่ลูกค้าที่มีความจำเป็นเป็นการชั่วคราว
สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ
ประเภทสินเชื่อที่มีลักษณะหมุนเวียน (Revolving Loan)
- ลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (Term Loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
ประเภทสินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Installment Loan)
- ลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
- เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือ
- เลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามความเหมาะสม หรือลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้
ส่วนลูกค้าสามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการรวมหนี้ (Debt Consolidation) โดยนำสินเชื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ซึ่งอยู่กับธนาคารกรุงเทพ มารวมเป็นสินเชื่อเดียวกันเพื่อลดภาระทางการเงิน
ทั้งนี้ ธนาคารจะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้า โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารจะพิจารณาปรับและผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้เพิ่มเติมเป็นรายกรณี เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วน
นอกจากการให้ความช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยข้างต้นแล้ว ธนาคารยังคงช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในเชิงรุกอย่างทันเหตุการณ์ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและเสริมสภาพคล่อง เช่น การให้ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan ธปท.) อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ระยะเวลา 2 ปี โดยรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยแทนลูกค้า 6 เดือนแรก
สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) หรือสาขาธนาคาร หรือสำนักธุรกิจของธนาคาร ขณะเดียวกัน ลูกค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง หรือมีความสามารถผ่อนชำระสินเชื่อได้เช่นเดิม ยังคงสามารถใช้บริการและชำระสินเชื่อต่างๆ ได้ตามปกติ.