เศรษฐกิจต้องนำการเมืองถึงจะรอด

โควิด-19 ยังเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของทุกประเทศทั่วโลก สงครามการค้ารอบใหม่ ระหว่าง จีน กับ สหรัฐฯ เป็นสงครามเย็น ที่ควบคู่ไปกับ การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ อย่างต่อเนื่อง วัคซีนต้านโควิด-19 จะเป็นกลไกเครื่องมือของ สงคราม ระหว่างค่าย สหรัฐฯ เยอรมนี อังกฤษ และ จีน วัดผลกันที่ประสิทธิภาพ บริบท ของการแบ่งปันวัคซีนและประสิทธิภาพของวัคซีน ถูกยกมาเป็นเครื่องมือดิสเครดิตของขั้วอำนาจต่างๆชัดเจนขึ้น

สหรัฐฯ แม้จะเผชิญหน้ากับ ไวรัสโควิด-19 หนักที่สุด แต่ดูเหมือนว่า จะชิลๆกับปัญหาและผลกระทบที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจหรือความมั่นคง ในขณะที่ จีน กลับดูตึงเครียดต่อสถานการณ์หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ปฏิกิริยา ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือในการที่องค์การอนามัยโลก ขอเข้าไปตรวจสอบ ต้นตอ ของการระบาดโควิด-19 ที่ อู่ฮั่น ส่งสัญญาณว่า จีน มีความหวาดระแวงกับสงครามเย็นรอบใหม่ ที่กำลังจะตามมา

การส่งมอบวัคซีนให้กับหลายประเทศ รวมทั้งไทยและในอาเซียน ที่มีทั้งของ จีน และ สหรัฐฯ พอจะเดาทางได้ว่าเศรษฐกิจและความมั่นคง ในอนาคตต่อจากนี้ไปหนักหนาสาหัสขนาดไหน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สามารถมีแรงส่งพุ่งแรงส่งท้ายปี 2020 ได้อย่างสบายๆ แม้จะมีสถิติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต จากโควิด-19 มากที่สุดในโลก หลังจากที่คำนวณดูแล้ว สหรัฐฯต้องฉีดวัคซีนให้คนอเมริกันได้ถึง 3 ล้านคนต่อวัน จึงจะเอาชนะไวรัสมรณะได้ ในขณะที่ตอนนี้ สหรัฐฯสามารถฉีดวัคซีนให้คนอเมริกันได้เพียง 2 แสนคนต่อวัน ก็ไม่ได้กระทบกับความเชื่อมั่นของสหรัฐฯทั้งเศรษฐกิจและการลงทุนแต่อย่างใด

หัวใจสำคัญก็คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชนิดไม่อั้น สัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งปล่อยเงินเข้าระบบอีก 9 แสนล้านดอลลาร์ แจกเงินถึงมือคนอเมริกันโดยตรง คนละ 600 ดอลลาร์ ทุกคน ยกเว้นคนที่มีรายได้เกินกว่า 75,000 ดอลลาร์ต่อปี โดยไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก ดูจากฐานรายได้ ตัวเดียวจบ

ไม่ต้องไปโหลดแอปพลิเคชันใดๆทั้งสิ้น นอกจากจะแจกกันถึงบันไดบ้านแล้ว ยังจะเพิ่มให้เป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ ด้วยซ้ำ ถามว่า รัฐบาลสหรัฐฯเอาเงินมาจากไหน ในเมื่อรายได้หดหายเหมือนกันทุกประเทศ คำตอบคือสหรัฐฯ เอาเงินอนาคตมาใช้ ยอดหนี้ภาครัฐทะลุ 28 ล้านล้านดอลลาร์ไปแล้ว จากเดิมที่ 19.9 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้คนอเมริกัน 330 ล้านคนช่วยกัน แบกหนี้อนาคต เพิ่มขึ้นเป็นคนละ 85,000 ดอลลาร์

แต่คนอเมริกันก็ยังเฉยๆกับรัฐบาล

การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปีละ 21.9 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ อย่างไรเสียก็ยังมากกว่า จีน อยู่ดี เมื่อพบว่า จีนมีจีดีพี ปีละ 15.9 ล้านล้านดอลลาร์เท่านั้น

จีนคุมโควิดได้ก่อนสหรัฐฯ ความเสียหายน้อยกว่าสหรัฐฯ ก็จริง แต่เศรษฐกิจโลกก็ยังอยู่ในมือสหรัฐฯ ถึงจีนจะพิสูจน์ว่า ปีหน้าจีดีพีจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 8.4 จีดีพีสหรัฐฯ คาดว่าจะฟื้นที่ 3.6 ก็ตาม แต่สหรัฐฯก็ยังอยู่ในอันดับแรก

จะเชื่อคำทำนาย จีน จะแซงหน้า สหรัฐฯ อาเซียนจะเนื้อหอม การจับมือทางการค้าระหว่าง จีนกับอาเซียน จะทำให้ครอบคลุมประชากร 2.2 พันล้านคน หรือร้อยละ 30 ของประชากรเป็นมหาอำนาจ จะ New Normal หรือดิจิทัล

เศรษฐกิจก็ต้องนำการเมืองชัดเจน.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th