SCB PRIVATE BANKING โชว์ผลงานปี 63 ดูแลพอร์ตลูกค้าสร้างยิลด์มากกว่า 14%

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

SCB PRIVATE BANKING โชว์ผลงานปี 63 ดูแลพอร์ตลูกค้าสร้างยิลด์มากกว่า 14%

Date Time: 14 ม.ค. 2564 20:48 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • SCB PRIVATE BANKING ผสานพลังทีมที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุนส่วนบุคคลจาก SCBS CIO Office บริหารพอร์ตลูกค้าไพรเวทแบงก์กิ้ง สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงถึง 14.90% ในระยะเวลา 1 ปี

Latest


SCB PRIVATE BANKING ผสานพลังทีมที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุนส่วนบุคคลจาก SCBS CIO Office บริหารพอร์ตลูกค้าไพรเวทแบงก์กิ้ง สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงถึง 14.90% ในระยะเวลา 1 ปี พร้อมเปิดลิสต์ 5 กองทุน Megatrends ยอดนิยมที่ลูกค้าไพรเวทแบงก์กิ้งเลือกลงทุนในปี 63

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 64 ดร.เมธินี จงสฤษดิ์หวัง รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Private Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันดีว่าตลาดการเงินการลงทุนทั่วโลกเผชิญความผันผวนอย่าง สูงจากสาเหตุของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางธนาคารได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่องแก่ลูกค้าในด้านกลยุทธ์การบริหาร และปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์การลงทุน

โดยในปี 63 ที่ผ่านมา พอร์ตการลงทุนประเภทความเสี่ยงปานกลาง (Moderate Asset Allocation) สามารถทำผลตอบแทนจากการลงทุนได้ถึง 14.90% ในระยะเวลา 1 ปี (1 ม.ค.-31 ธ.ค. 63) โดยนับเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่ากองอื่น ๆ ในการลงทุนประเภทความเสี่ยงปานกลางตามนิยามของ AIMC โดยค่ากลางของกลุ่มดังกล่าวอยู่ที่ -1.06% และเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนหุ้นในประเทศ (SET TRI Index) จะได้รับผลตอบแทนเพียง -5.24%

สำหรับพอร์ตการลงทุนนี้เป็นการลงทุนแบบผสมในผลิตภัณฑ์ทั้งจากบริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Group) และจากบริษัทพันธมิตรรายอื่น ๆ ในรูปแบบของ Open Architecture โดยไทยพาณิชย์ได้ดำเนินนโยบายเรื่อง Open Architecture มาแล้วกว่า 5 ปี เพื่อคัดสรรผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

โดยในปี 2564 นี้ SCB PRIVATE BANKING ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการให้คำปรึกษาเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันธุรกิจไพรเวทแบงก์กิ้งหนึ่งในธุรกิจหลักที่เป็นยุทธศาสตร์องค์กรที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนโดย SCB PRIVATE BANKING มีทีมที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนส่วนบุคคลระดับมืออาชีพทั้งที่ธนาคารไทยพาณิชย์ และบล.ไทยพาณิชย์ เพื่อพร้อมให้คำแนะนำด้านการลงทุนที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ (Personalized Investment Portfolios) สอดคล้องกับความต้องการและระดับความเสี่ยงในการลงทุนของลูกค้าแต่ละบุคคล โดยลูกค้าต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการลงทุน (Relationship managers) ได้ทันที

ด้านนายศรชัย สุเนต์ตา CFA กรรมการผู้จัดการ Chief Investment Office บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS CIO กล่าวว่าทีมที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุนส่วนบุคคลจาก Chief Investment Office หรือ SCBS CIO Office ได้ให้คำแนะนำในการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างเหมาะสมภายใต้สภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา โดยพอร์ตการลงทุนประเภทความเสี่ยงปานกลางที่เราแนะนำนั้น

ทั้งนี้ มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนทั้งกองทุนตราสารหนี้, กองทุนตราสารทุน และกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก ทำให้พอร์ตมีความยืดหยุ่นสูงเหมาะกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นที่ผสมอยู่ในพอร์ตในปีที่ผ่านมาจะเป็นกองทุนตราสารทุน

รวมถึงกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น กองทุน SCBGOLD ที่เน้นลงทุนในทองคำ, กองทุน KFACHINA ที่เน้นลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ (A Shares), กองทุน PRINCIPAL GOPP เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลก ส่วนกองทุนตราสารหนี้ที่ผสมอยู่ในพอร์ตทำหน้าที่ลดความผันผวนของพอร์ต และสร้างความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุน

สำหรับพอร์ตการลงทุนในปี 2564 ทางไทยพาณิชย์แนะนำให้ลูกค้ามีการจัดพอร์ตการลงทุนที่เน้นกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยพอร์ตประเภทความเสี่ยงปานกลาง (Moderate Asset Allocation) แนะนำแบ่งเป็นสัดส่วนหุ้นต่อตราสารหนี้ไว้ในสัดส่วน 60% ต่อ 40% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะทยอยปรับตัวดีขึ้นภายหลังจากการกระจายวัคซีน COVID-19 ให้แก่ประชากรทั่วโลก


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ