แบงก์ออก “หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์” รับหนี้เสีย วงเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารติดตามสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังไม่ทราบชัดเจนว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 จะจบลงเมื่อไร อีกทั้งขณะนี้มีสถานการณ์ทางการเมืองเข้ามาแทรก และหวังว่าเหตุการณ์ทางการเมืองจะเข้าสู่ความเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก โดยมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา พร้อมมีการศึกษาแนวทางการระดมทุน หากมีความจำเป็นต้องใช้

“ธนาคารยังไม่มีความจำเป็นที่จะออกตราสารเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 แต่ก็ได้ศึกษาหลายแนวทางด้วยกัน รวมทั้งชงหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ และมีความพร้อมตลอดเวลาที่จะระดมทุนหากมีความจำเป็น”

สำหรับมาตรการพักชำระหนี้และพักดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะครบกำหนดวันที่ 22 ต.ค.นี้ ธนาคารได้มีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธปท. หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และสมาคมธนาคารไทย ถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกค้าโดยช่วยลดภาระให้กับผู้เดือดร้อน และต้องพยายามเข้าใจว่าอุตสาหกรรมไหนจะสามารถฝ่าฟันและก้าวออกมาจากยุคโควิด-19 แต่ช่วงนี้ต้องประคองกันไปก่อน พร้อมช่วยแบบแยกแยะ เนื่องจากทรัพยากรของประเทศมีจำกัด หากใช้ไม่คำนึงถึงต้นทุนและความพอเพียงก็จะนำไปสู่ระเบิดเวลาในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารได้ออกตราสารทางการเงินที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์) วงเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใต้ Euro Medium Term Note Programme อัตราดอกเบี้ย 5.275% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 5 เดือน และ Reset ดอกเบี้ยทุก 5 ปี รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต และก่อนหน้านี้ธนาคารกรุงเทพ ได้ออกหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ วงเงิน 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดอกเบี้ย 5% ต่อปี โดยเพื่อนำเงินมาขยายธุรกิจใน 2-3 ปีข้างหน้า และรองรับหนี้เสียในอนาคต.