ธปท.ไฟเขียวกู้เงิน “ออนไลน์” ใช้ “ค่าน้ำ-ไฟ” ประเมินสินเชื่อ

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ธปท.ไฟเขียวกู้เงิน “ออนไลน์” ใช้ “ค่าน้ำ-ไฟ” ประเมินสินเชื่อ

Date Time: 18 ก.ย. 2563 05:45 น.

Summary

  • “แบงก์ชาติ” ออกหนังสือเวียนเปิดให้บริการ “สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล” ให้ประชาชนขอสินเชื่อและชำระหนี้ผ่านระบบออนไลน์ คิดอัตราดอกเบี้ยบวกค่าธรรมเนียมไม่เกิน 25%

Latest

ปลดล็อกเรื่องภาษี!

“แบงก์ชาติ” ออกหนังสือเวียนเปิดให้บริการ “สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล” ให้ประชาชนขอสินเชื่อและชำระหนี้ผ่านระบบออนไลน์ คิดอัตราดอกเบี้ยบวกค่าธรรมเนียมไม่เกิน 25% ใช้การชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ พฤติกรรมการซื้อขายออนไลน์ ในการประเมินสินเชื่อ เพิ่มโอกาสช่วยคนที่ไม่มีรายได้ประจำ และหลักประกันเข้าถึงแหล่งเงินได้มากขึ้น

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกหนังสือเวียน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล (Digital Personal Loan) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ กลุ่มที่ไม่สามารถพิสูจน์รายได้ และกลุ่มที่ไม่มีทรัพย์สินที่สามารถใช้เป็นหลักประกัน โดยจะสามารถใช้ข้อมูลทางเลือก (alternative data) อื่นๆ ที่เป็นข้อมูลที่แสดงถึงการชำระเงิน เป็นข้อมูลประกอบในการขอสินเชื่อได้

“การปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล (Digital Personal Loan) เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่ผู้ประกอบธุรกิจ โดยที่ผ่านมา หากลูกหนี้ไม่มีรายได้ชัดเจน หรือไม่มีหลักประกัน จะไม่สามารถได้รับสินเชื่อ แต่การปล่อยสินเชื่อประเภทใหม่นี้จะพิจารณาสินเชื่อโดยใช้ข้อมูลทางเลือก เช่น การชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ รายได้หรือพฤติกรรมการซื้อขายออนไลน์ ในการประเมินความสามารถหรือความเต็มใจในการชำระหนี้ ซึ่งกรณีเหล่านี้จะทำให้มีโอกาสในการได้รับสินเชื่อมากขึ้น”

ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวต่อว่า สินเชื่อดังกล่าวจะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในขั้นตอนการให้บริการสินเชื่อ ได้แก่ การเบิกจ่ายและรับชำระคืนสินเชื่อ รวมทั้ง จะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น อัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าธรรมเนียม และการแสดงภาระหนี้ ให้ทราบโดยทั่วกันเพื่อให้ประชาชนสามารถศึกษาราย– ละเอียดที่ชัดเจนประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถให้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแก่ผู้บริโภคในแต่ละรายรวมกันไม่เกิน 20,000 บาท และมีกำหนดระยะเวลาการชำระคืนสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแต่ละสัญญาไม่เกิน 6 เดือน โดยสินเชื่อดังกล่าวไม่จำกัดวัตถุประสงค์ในการกู้ยืม โดยมีกำหนดให้คิดอัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใดๆ รวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 25% ต่อปี

“สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลจะช่วยให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ กลุ่มที่ไม่สามารถพิสูจน์รายได้ และกลุ่มที่ไม่มีทรัพย์สินที่สามารถใช้เป็นหลักประกัน สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ประกอบธุรกิจสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและข้อมูลทางเลือกต่างๆ ในการให้บริการ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงช่วยสร้างข้อมูลรอยเท้าดิจิทัล (digital footprint) ในระบบการเงินให้กับประชาชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการใช้บริการทางการเงินอื่นๆในอนาคต”

ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล สามารถแจ้งความประสงค์มายัง ธปท. โดยผู้ประกอบธุรกิจต้องสามารถสาธิตผลิตภัณฑ์และบริการต้นแบบ (Minimum Viable Product : MVP) ที่สะท้อนรูปแบบการให้บริการตามที่ ธปท.กำหนดได้ รวมทั้งจะต้องแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยของลูกค้าในการให้บริการ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ ธปท.ได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ชัดเจนว่า สามารถที่จะเชื่อมโยงข้อมูลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ รวมทั้ง พฤติกรรมการซื้อขายออนไลน์ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบวิเคราะห์การขอสินเชื่อได้ ซึ่งได้มีการเตรียมการรองรับจุดนี้ไว้แล้ว.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ