ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ 9 แห่ง ได้แจ้งผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 63 มีกำไรสุทธิ 66,458.65 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 20,797.60 ล้านบาท จากงวด 6 เดือนแรกของปี 62 มีกำไรสุทธิ 87,256.25 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 2 ปี 63 มีกำไรสุทธิรวมกัน 27,291.48 ล้านบาท ลดลง 14,940.61 ล้านบาท จากไตรมาส 2 ปี 62 มีกำไรสุทธิ 42,232.09 ล้านบาท เป็นผลจากธนาคารพาณิชย์นำเงินไปกันสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับผลกระทบจากโควิด-19
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 63 มีดังนี้ ธนาคารกรุงไทย มีกำไรสุทธิ 10,295.74 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 5,175.01 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย กำไรสุทธิ 9,550.22 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 10,423 ล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ กำไรสุทธิ 17,610.77 ล้านบาท ลดลง 2,521.34 ล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กำไรสุทธิ 13,540.31 ล้านบาท ลดลง 6,206.62 ล้านบาท ธนาคารทหารไทย กำไรสุทธิ 7,258.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,762.24 ล้านบาท ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กำไรสุทธิ 1,385.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 743.02 ล้านบาท บริษัททิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป กำไรสุทธิ 2,819.44 ล้านบาท ลดลง 708.31 ล้านบาท ธนาคารเกียรตินาคิน กำไรสุทธิ 2,668.25 ล้านบาท ลดลง 30.47 ล้านบาท และบริษัทแอล เอฟ ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป กำไรสุทธิ 1,329.66 ล้านบาท ลดลง 238.11 ล้านบาท
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 63 มีกำไรสุทธิ 8,359.77 ล้านบาท ลดลง 23.8% จากช่วงเดียวกันปี 62 ที่มีกำไร 10,975.60 ล้านบาท โดยกำไรที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นจำนวน 9,734 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร “การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อรายได้และแนวโน้มกำไรของธนาคารในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งและการตั้งสำรองหนี้สูญในระดับสูง จะช่วยให้สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยได้”.