วานนี้ (19 มิ.ย.) นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เนื่องด้วย ธปท.พบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไป และยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ในระยะต่อไปได้ ธปท.จึงให้ธนาคารพาณิชย์จัดทำแผนบริหารจัดการระดับเงินกองทุนสำหรับระยะ 1-3 ปีข้างหน้าเพื่อนำเสนอ ธปท.โดยให้คำนึงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต และศักยภาพลูกหนี้ในการทำธุรกิจหลังโควิด-19 คลี่คลาย นอกจากนั้น ธปท. ขอให้งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในปี 2563 รวมถึงงดการซื้อหุ้นคืน เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์รักษาระดับเงินกองทุนให้เข้มแข็งและรองรับการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
“แนวทางการดำเนินการรักษาระดับเงินกองทุนดังกล่าว ถือเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับแนวทางที่ธนาคารกลางหลายประเทศได้ดำเนินการแล้ว เพื่อรองรับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 ในอนาคต”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การออกคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 และการปิดเศรษฐกิจชั่วคราวส่งผลให้มีแรงงานตกงาน หรือรายได้ลดลงจำนวนมาก ถึงแม้ ธปท.จะมีมาตรการช่วยพักหนี้ และเร่งให้ปรับโครงสร้างหนี้ แต่มีโอกาสที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะเพิ่มขึ้นมากในอนาคต ธปท.จึงขอให้ธนาคารพาณิชย์ประเมินทุนที่มีอยู่เทียบกับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ในช่วง 3 ปี และการสะสมกำไรแทนการจ่ายเงินปันผล โดยในขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังมีการสำรองหนี้ที่สงสัยจะสูญ และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในอัตราที่สูงมาก.