นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบกรณีที่พบการทุจริตในโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” ในการใช้จ่ายเงินกระเป๋าช่องที่ 2 ที่มีการคืนเงิน (แคชแบ็ค) 15-20% ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง พบว่า มีร้านค้า 1,000แห่งเข้าข่ายต้องสงสัยว่าอาจทุจริต เช่น ร้านค้าบางแห่งโอนเงินไปให้คนซื้อเพื่อมาซื้อสินค้าในร้านและทำข้อตกลงที่จะแบ่งเงินที่รัฐจ่ายคืนมาให้ ซึ่งหากซื้อสินค้า 50,000 บาท ผู้ซื้อจะได้รับเงินคืนจากรัฐ 8,500 บาท และยังพบยอดการซื้อสินค้าของบ้านร้านสูงผิดปกติ ทำให้กระทรวงการคลังต้องชะลอการจ่ายเงินคืนให้ประชาชน ที่ใช้จ่ายเงินกระเป๋า 2 ซื้อสินค้าในร้านค้าทั้ง 1,000 แห่งจนกว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ
สำหรับการตรวจสอบทุจริตในโครงการ
สศค.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบซ้ำอีกครั้งหากพบว่า ร้านค้าไม่ได้ทุจริต กระทรวงการคลัง จะคืนเงินสำหรับการใช้จ่ายกระเป๋า 2 ให้ประชาชนที่ใช้จ่ายในร้านดังกล่าว แต่หากพบการทุจริต ยอดใช้จ่ายดังกล่าวจะไม่สามารถคืนเงินได้ และร้านค้าจะถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าร่วมกับโครงการรัฐบาลในอนาคต “ขอเตือนคนที่คิดไม่ดี มีพฤติกรรมทุจริตว่า อย่าทำเลย เพราะระบบสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งในเรื่องการทุจริต ที่ตรวจพบครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการดำเนินการชิม ช้อป ใช้ เฟส 4 เป็นคนละเรื่องกัน”
“ชิม ช้อป ใช้ ระยะที่ 4 (เฟส 4) สศค.รับการบ้านมาจาก รมว.คลัง ว่าจะทำอย่างไร ให้ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ มีการใช้เงินในกระเป๋า 2 ต่อเนื่อง ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่เห็นว่า ยังมีหลายเทศกาลที่จะร่วมกระตุ้นการใช้จ่ายกระเป๋า 2 ได้”.