นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 โดยมีรายจ่าย 3.3 ล้านล้านบาท มีรายได้ 2.777 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 532,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2563 จำนวน 100,000 ล้านบาท
ส่วนเรื่องการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาวาระ 2-3 ในวันที่ 8-10 ม.ค.2563 ซึ่งยังเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในปลายเดือน ม.ค.หรืออย่างช้าต้นเดือน ก.พ.2563 ทำให้งบประมาณรายจ่ายปีนี้ มีระยะเวลาดำเนินการ 8 เดือน จนถึงสิ้นเดือน ก.ย.2563 ดังนั้น สำนักงบประมาณจึงต้องวางแผนเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“ในช่วงที่งบประมาณปี 2563 ยังไม่ประกาศใช้ แต่กฎหมายกำหนดให้ใช้งบประมาณปีเก่าไปพลางก่อนนั้น มีผลการเบิกจ่ายเงินประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท จากงบประมาณปี 2563 ทั้งหมด 3.2 ล้านล้านบาท จึงมีงบประมาณสามารถเบิกจ่ายได้อีก 2 ล้านล้านบาท ซึ่งโดยปกติแล้ว งบประมาณรายจ่ายจะไม่สามารถเบิกได้ครบ 100% แต่เบิกได้ประมาณ 80-90% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด ทำให้วงเงินใช้จ่ายได้จริงในช่วง 8 เดือนที่เหลือนี้ ประมาณ 1.8-1.9 ล้านล้านบาท”
ส่วนงบลงทุนของปีงบประมาณ 2563 มีกรอบวงเงินอยู่ที่ 649,000 ล้านบาท หรือ 20.6% ของทั้งหมดซึ่งในจำนวนนี้ได้ตั้งงบผูกพันไว้แล้ว ประมาณ 200,000 ล้านบาท จึงมีงบประมาณใหม่จริงๆ ประมาณ 400,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็กมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งจะต้องเร่งเบิกจ่ายให้ได้ทั้งหมด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้.