บอร์ดกองทุนหมู่บ้านไฟเขียวตามมติ ครม.เมื่อ 26 พ.ย. อัดฉีดเงินเข้าหมู่บ้านแห่งละ 200,000 บาท จำนวน 79,255 หมู่บ้าน พร้อมเปิดตัวโครงการพักชำระหนี้ระหว่างกองทุนหมู่บ้านกับลูกหนี้ ด้าน ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำเพียง 0.01% ต่อปี ยันปล่อยกู้โรงไฟฟ้าชุมชนได้
นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ กทบ. ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่อนุมัติเงิน 200,000 บาท ให้กับกองทุนหมู่บ้าน จำนวน 79,255 กองทุนทั่วประเทศ วงเงินรวมประมาณ 15,800 ล้านบาท ไปจัดทำกฎระเบียบและหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อนำเงินจำนวนดังกล่าว ไปดำเนินการตามมติ ครม.
“เงินจำนวน 200,000 บาท จะส่งถึงกองทุนหมู่บ้านได้ต้องมีแผนงานที่ชัดเจน และที่สำคัญโครงการที่เสนอขึ้นต้องเกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของชุมชนที่มีความต้องการจริงๆ และก่อให้เกิดประโยชน์หรือรายได้ในอนาคต เช่น ยุ้งฉางชุมชน โรงตากพืชผลทางการเกษตร โรงสีชุมชน โรงงานผลิตปุ๋ยประจำชุมชน การจัดทำแหล่งเก็บน้ำชุมชน และเครื่องจักรสำหรับแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรหรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพ ในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในชุมชนให้ดีขึ้น เช่น โครงการท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น โดยคาดว่าจะสามารถอนุมัติโครงการที่ชุมชนเสนอมาเพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้ภายในเดือน มิ.ย.63 ส่วนกรณีที่นำเงินไป
ก่อสร้างถนน หรือสะพาน แม้จะเป็นโครงสร้าง พื้นฐานก็ตาม ไม่สร้างรายได้ให้กับชุมชน จึงไม่เข้า หลักเกณฑ์ตามมติ ครม.”
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ล่าสุด ธ.ก.ส.อนุมัติโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.01% คงที่ 3 ปี หรือล้านละ 100 บาท และยังได้ขยายคุณสมบัติของผู้กู้ จากเดิมให้เฉพาะสหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชน ได้เพิ่มกองทุนหมู่บ้าน ทำให้โครงการนี้สามารถนำไปต่อยอดกับโครงการของกองทุนหมู่บ้านได้ ในกรณีที่กองทุนหมู่บ้านเงินทุนไม่เพียงพอ โดยสามารถกู้ได้ไม่จำกัดวงเงิน เช่น โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนของกระทรวงพลังงาน ที่จะเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนนอกเหนือจากรายได้ภาคการเกษตร ซึ่งขนาดของโรงไฟฟ้า ชุมชน 10 เมกะวัตต์ ใช้เงินทุนสูงถึง 100 ล้านบาท ธ.ก.ส.สามารถให้การสนับสนุนทางด้านสินเชื่อได้
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องโครงการพักชำระหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามความสมัครใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ให้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้ผ่อนคลายภาระการชำระหนี้ที่มีกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสามารถนำเงินส่วนดังกล่าวมาประกอบอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนและหนี้นอกระบบให้กับสมาชิก
ทั้งนี้ โครงการพักชำระหนี้จะมีทั้งการพักหนี้ การลดดอกเบี้ย โดยขึ้นกับความสมัครใจและความต้องการของแต่ละกองทุน รวมถึงความพร้อมของสมาชิก ซึ่งกองทุนสามารถไปดำเนินการต่อยอดโครงการตามแนวทางประชารัฐ และการศึกษาดูงานตามที่กองทุนต้องการได้ด้วย โดยกลุ่มเป้าหมายโครงการพักหนี้ จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ต้องการพักชำระหนี้โดยสมัครใจ มีประวัติชำระหนี้ที่ดี หรืออาจประสบปัญหาทำให้ชำระหนี้ไม่ได้ พักหนี้เงินต้น 1 ปี แต่ยังคงจ่ายดอกเบี้ย และกลุ่มที่ 2 ไม่ต้องการพักชำระหนี้ จะมีมาตรการเพื่อเป็นแรงจูงใจ เช่น ลดดอกเบี้ย
โดยขั้นตอนจากนี้จะไปเตรียมจัดทำมาตร-การสนับสนุน และทำให้สมาชิกกองทุนฯ มีความแข็งแรง ดังนั้น ต้องมีกระบวนการบ่มเพาะอบรมสนับสนุนการประกอบอาชีพได้ด้วย โดยปัจจุบัน ธ.ก.ส.มีกระบวนการต่างๆรองรับแล้ว ขั้นตอนจากนี้ กองทุนฯจะประกาศแนวทางการพักชำระหนี้ และดำเนินการตามมติ ครม. ต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารออมสินกับ ธ.ก.ส.ได้เปิดโครงการการพักชำระหนี้ระหว่างกองทุนหมู่บ้านกับธนาคารไปแล้ว โดยมีกองทุนหมู่บ้านเข้าร่วมโครงการดังกล่าว แห่งละ 2,000 หมู่บ้าน รวมแล้ว 4,000 หมู่บ้าน แต่ในรอบนี้ ครม.อนุมัติให้ลูกหนี้กองทุนหมู่บ้านสามารถพักชำระหนี้กับกองทุนหมู่บ้านได้ แบบภาคสมัครใจ ซึ่งคาดว่ามีลูกหนี้ขอเข้าร่วมโครงการไม่มากนัก.