ไฟเขียวมาตรการใหม่ “กระตุ้นเศรษฐกิจ”

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ไฟเขียวมาตรการใหม่ “กระตุ้นเศรษฐกิจ”

Date Time: 27 พ.ย. 2562 09:20 น.

Summary

  • ครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 2562 หวังดันจีดีพีขยายตัว 2.8% สูงกว่าที่สภาพัฒน์คาดการณ์ ด้าน “ลวรณ” แจงอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ 144,000 ล้านบาท จัดหนักอุ้มเงินดาวน์ 50,000 บาท

Latest

เคล็ดลับจัดการเงินคนเจน Z

ครม.อนุมัติคลังอัดเงินแสนล้านอุดทุกช่องว่าง

ครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 2562 หวังดันจีดีพีขยายตัว 2.8% สูงกว่าที่สภาพัฒน์คาดการณ์ ด้าน “ลวรณ” แจงอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ 144,000 ล้านบาท จัดหนักอุ้มเงินดาวน์ 50,000 บาท

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 62 รวม 3 มาตรการคือ 1.เพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจรากหญ้าใน 3 โครงการย่อย เช่น ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานหมู่บ้าน โดยจัดสรรเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองที่รับการประ เมินอยู่ในระดับ A B และ C จำนวน 71,742 แห่ง แห่งละไม่เกิน 200,000 บาท ผ่านกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) วงเงินรวม 14,348 ล้านบาท เพื่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ เช่น ยุ้งฉางชุมชน โรงตากพืชผลทางการเกษตร โรงสีชุมชน และโรงงานผลิตปุ๋ยประจำชุมชน เป็นต้น

ยังมีโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย โดย ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สถาบันการเงินประชาชน สถาบันการเงินชุมชน และสหกรณ์การเกษตรอัตราดอก เบี้ยเงินกู้ 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามปกติของ ธ.ก.ส. เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.62 ถึงวันที่ 30 พ.ย.2565 รวมทั้งโครงการพักชำระหนี้ 1 ปีให้แก่สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองที่สมัครใจ

2.ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวปีการผลิต 62/63 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในอัตราไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท และขยายเวลาการจ่ายเงินให้เกษตรกรที่เข้าร่วมอนุมัติโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิต จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.62 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.63

3.ลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการชื่อ “บ้านดี มีดาวน์” เพื่อเป็นการลดภาระให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตน โดยภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50,000 บาทต่อราย ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อปี ถ้าธนาคารอนุมัติเงินกู้ รัฐบาลจะจ่ายเงินให้ทันที เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 62-31 มี.ค.63 ผู้สนใจลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ “บ้านดีมีดาวน์.com” ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ในรูปแบบใครมาก่อนได้ก่อน

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ ครม. อนุมัติในครั้งนี้ ใช้เงินงบประมาณ 35,833.94 ล้านบาท แบ่งเป็นงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 5,000 ล้านบาท โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” และอีก 30,833.94 ล้านบาท จะใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 และปีต่อๆไป เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย 707.7 ล้านบาท โครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2562/63 ในส่วนเพิ่มเติม 2,667.35 ล้านบาท และโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวปีการผลิต 2562/63 จำนวน 27,458.89 ล้านบาท ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดย ครม. มอบหมายให้ ธ.ก.ส.ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป

“มาตรการทั้งหมดนี้ เมื่อรวมกับสินเชื่อต่างๆของธนาคารคาดว่า จะมีเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 144,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกับ “มาตรการชิม ช้อป ใช้” คาดว่า จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวได้ 2.8% ซึ่งเป็นอัตราเติบโตที่สูงกว่าสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์ไว้ที่ 2.6% เนื่องจากขณะนี้ ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการชิม ช้อป ใช้ เริ่มเติมเงินในกระเป๋าใบที่ 2 มากขึ้น ซึ่งมียอดใช้จ่ายแล้ว 3,000 ล้านบาท จากเดิมไม่ถึง 1,000 ล้านบาท”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ