ขานรับนโยบายภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย พัฒนาระบบ "อี-เพย์เมนต์" รับชำระค่าปรับจากกรมการขนส่งทางบก ขณะที่กรุงศรี รับชำระจ่ายเสียภาษีสรรพสามิต ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 62 นายธวัชชัย ชีวานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคาร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้พัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ให้บริการรับชำระค่าปรับจราจรใบสั่งทุกประเภทจากทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2559 และได้ต่อยอดพัฒนาระบบ Police Ticket Management หรือ PTM หรือระบบจัดการใบสั่งออนไลน์ให้ครบวงจร
โดยนำเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งของสถานีตำรวจต่างๆ กับกรมการขนส่งทางบก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการบันทึกค่าปรับจราจรประเภทต่างๆ และช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ สามารถดูรายงานค่าปรับจราจรประเภทต่างๆ ย้อนหลัง 90 วัน มีระบบออกใบเตือนอัตโนมัติในกรณีใบสั่งยังไม่มีการชำระค่าปรับ เรียกดูข้อมูลที่จำเป็นต่อการออกใบสั่งต่างๆ ตลอดจนสามารถบันทึกแต้มผู้กระทำความผิดตามกฎหมายจราจร
สำหรับประชาชนที่ได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากสามารถชำระค่าใบสั่งที่สาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ เครื่องเอทีเอ็ม แอปพลิเคชันกรุงไทย NEXT แล้ว ยังสามารถชำระผ่าน Banking Agent ของธนาคาร ได้แก่ CenPay ตู้บุญเติม และไปรษณีย์ไทย
โดยธนาคารเตรียมขยายช่องทางการชำระค่าใบสั่งผ่านเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน (e-Ticket) ด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิต รวมทั้งชำระใบสั่งต่างสถานี จากเดิมที่ชำระค่าปรับกับสถานีตำรวจที่ออกใบสั่งเท่านั้น
กรุงศรีให้บริการรับชำระค่าภาษีสรรพสามิตออนไลน์
ทางด้าน นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเปิดให้บริการรับชำระค่าภาษีสรรพสามิตผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต e-Excise Service เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการชำระภาษีสรรพสามิตได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ e-Excise Service เป็นบริการใหม่ที่ช่วยลดเวลาและขั้นตอนในการชำระภาษีสรรพสามิต โดยลูกค้าสามารถชำระภาษีได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุด สำหรับลูกค้ารายใหญ่สามารถทำรายการผ่าน Cash Management สำหรับลูกค้ารายย่อยสามารถชำระเงินผ่านช่องทาง Bill Payment เช่น เคาน์เตอร์ธนาคาร, เอทีเอ็ม, Internet Banking และ Mobile Banking รวมถึงบริการชำระเงิน Krungsri E-Payment ซึ่งพร้อมให้บริการแล้ว.