นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ใน 6 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ธนาคารได้เตรียมวงเงินสินเชื่อไว้ 70,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินกู้ให้กับเอสเอ็มอี และเน้นสนับสนุนสินเชื่อให้กับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบการ นำเงินไปปรับปรุงโรงแรมให้เป็นไปตามกฎหมาย และยื่นขอใบอนุญาตประกอบการให้ถูกต้อง หลังจากรัฐบาลใช้ ม.44 นิรโทษกรรมให้โรงแรมขนาดเล็ก ที่ไม่มีใบอนุญาตที่ก่อสร้างก่อนปี 2559 ไปปรับปรุงตามกฎหมายอาคาร และยื่นขออนุญาตได้ก่อนปี 2564 และการปรับปรุงอาคารโรงแรมจะใช้เงินลงทุน 300,000-500,000 บาทต่อห้อง ทำให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น
“การปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ มีผลกระทบต่อเอสเอ็มอีน้อย และไม่เป็นปัญหา เพราะค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนด้านแรงงานปรับขึ้นเล็กน้อย อีกทั้งสามารถใช้เทคโนโลยีมาทดแทนแรงงานได้ เช่น การว่าจ้างพนักงานบัญชีเดือนละ 20,000 บาท หากนำโปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปมาใช้ จะเสียค่าใช้จ่ายเพียงหลัก 1,000 บาทต่อเดือน หากทำธุรกิจสปาต้องใช้แรงงานจำนวนมาก หากมีการปรับตัว มีการบริหารจัดการที่ดี มีวิธีคิดที่ดี ก็สามารถดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ส่งผลกระทบ”
ทั้งนี้ เอสเอ็มอีที่มีปัญหาเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคาร ส่วนใหญ่เกิดจากเอสเอ็มอีที่มีคู่ค้า หรือช่องทางการขายเพียงแห่งเดียว เมื่อสินค้าที่ผลิตหรือบริการ มีคำสั่งซื้อหรือเข้ามาใช้บริการลดลง ก็ประสบปัญหาทันที การแก้ไขปัญหา จึงต้องหาตลาดให้มากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง เช่น มีการนำสินค้าเข้าไปขายในช่องทางออนไลน์ และ 6 เดือนแรกของปีนี้ ได้ปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี รวม 40,000 ล้านบาท.