น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายระบบการเงิน และเทคโนโลยีการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศ และการทดลองนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ภายใต้ระบบการทดลองแบบปิดของ ธปท. (Rugulatory Sandbox) ว่า จากการทดสอบนวัตกรรมทางการเงินผ่าน Sandbox ในด้านที่ 2 หรือนวัตกรรมที่อยู่ระหว่างการทดสอบใน Sandbox คือเทคโนโลยีชีวภาพในการพิสูจน์ตัวตน (Biometrics) ล่าสุดพบว่า การใช้เทคโนโลยีในการสแกนใบหน้าเพื่อพิสูจน์ตัวตน เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับระบบการเงินไทยมากที่สุด สามารถทำได้ผ่านมือถือ มีความแพร่หลายในการใช้งานมากขึ้น ราคาถูกกว่าการใช้การสแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนม่านตา รวมทั้งมีฐานข้อมูลจากบัตรประชาชน และหนังสือเดินทางให้เปรียบเทียบ ขณะนี้มี 10 ธนาคารพาณิชย์อยู่ระหว่างทดสอบระบบ คาดว่าไตรมาสที่ 1-2 ทั้ง 10 ธนาคารพาณิชย์จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ได้จริง
“เทคโนโลยีสแกนใบหน้าจะดำเนินการ 2 ระยะ คือ ในการเปิดบัญชีกับธนาคารพาณิชย์ เมื่อลูกค้าไปที่ธนาคารพาณิชย์ครั้งแรก ก็จะถูกขอดูบัตรประชาชน เพื่อตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง หลังจากนั้นถ่ายรูปลูกค้าไว้เพื่อเป็นข้อมูล ในการพิสูจน์ตัวตนในครั้งต่อไป เมื่อมาทำธุรกรรมการเงิน ส่วนระยะที่ 2 เป็นการเปิดบัญชีผ่านโมบาย แอปพลิเคชันของธนาคาร โดยยืนยันตัวตนได้ด้วยระบบการสแกนใบหน้า เทียบกับข้อมูลในบัตรประชาชน และลงนามโดยใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ลูกค้าเปิดบัญชีได้โดยไม่ต้องมาที่สาขาธนาคาร”
สำหรับนวัตกรรมที่จะผ่านการอนุมัติจาก Sandbox ด้านที่ 3 ในครึ่งปีแรกนี้ คือ การใช้ระบบฐานข้อมูลแบบกล่องกลาง (บล็อกเชน) จัดทำหนังสือค้ำประกันจากธนาคารพาณิชย์ และส่งต่อจากลูกค้าให้ผู้รับ ซึ่งเมื่อมาใช้ได้จะลดเวลาการขอหนังสือค้ำประกันจาก 3-7 วัน เหลือเพียงครึ่งวันเท่านั้น.