นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ว่า บจ. จำนวน 507 หลักทรัพย์ หรือ 95.30% ของตลาดหลักทรัพย์ฯได้ รายงานกำไรสุทธิรวมงวด 9 เดือนของปีนี้ว่า มีกำไร 759,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กลุ่มที่ทำกำไรเพิ่มขึ้นสูงสุดได้แก่ พลังงาน, ปิโตรเคมี และธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ มีเพียง 2 กลุ่มที่ขาดทุนได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ก่อสร้าง และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยยอดขายรวม 9 เดือน ของ บจ. อยู่ที่ 8.62 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.82% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.10% และ 8.81% ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาฐานะการเงินของกิจการ ณ สิ้นไตรมาส 3 พบว่า โครงสร้างเงินทุนของ บจ. มีความแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) 1.28 เท่า เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปีที่ผ่านมา ที่ 1.15 เท่า
“กำไร 9 เดือนของปี 61 สะท้อนความแข็งแกร่งของ บจ. และการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ แม้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต และมีการแข่งขันทางการตลาดที่สูงขึ้น แต่ผู้ประกอบการรับมือการเปลี่ยนแปลงได้ดี และมีแรงขายหุ้นจากนักลงทุนต่างชาติ 200,000 ล้านบาท แต่ส่งผลกระทบกดดัชนีปรับตัวลงแค่ 10% ต่างจาก 5-6 ปีก่อนที่แรงขายขนาดนี้ได้ส่งผลต่อดัชนีมากกว่า 20% หุ้นไทยที่ปรับตัวลงช่วงนี้เกิดจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก แต่อาจเป็นโอกาสที่ดีในการเลือกสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคาถูก ส่วนเป้าหมายการระดมทุนของ บจ.ปีนี้ ยังคงเป้าหมายระดมทุน ทั้งจากการเพิ่มทุนของบริษัทในตลาด และการระดมทุนโดยขายหุ้นใหม่รวม 550,000 ล้านบาท ล่าสุด มียอดการระดมทุนรวมแล้ว 350,000 ล้านบาท”.