นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในโอกาสวันออมแห่งชาติ ประจำปี 2561 ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน ได้ทำการวิจัยและสำรวจพฤติกรรมการออมของประชาชนฐานรากพบว่า ภาพรวมการออมของประเทศในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยปี 60 มีปริมาณการออมเบื้องต้นของประเทศอยู่ที่ 5.4 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อน 12.9% คิดเป็น 34.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ไทยอยู่ในระดับต้นๆ โดยมีการออมในรูปแบบต่างๆ เช่น เงินฝาก สลากออมทรัพย์ พันธบัตร ประกันชีวิต เป็นต้น
สำหรับเงินฝากที่อยู่ในสถาบันการเงิน (ณ เดือน ส.ค.61) อยู่ที่ 17.9 ล้านล้านบาท เป็นเงินฝากธนาคารพาณิชย์ 13.2 ล้านล้านบาท ธนาคารเฉพาะกิจ 4.7 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.8% และ 6.2% ตามลำดับ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจฯ ธนาคารออมสิน คาดว่า ในระยะต่อไปตัวเลขการออมของประเทศจะมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง จากการเร่งลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ที่ต้องการเม็ดเงินลงทุนจำนวนมาก “การออมของประชาชนฐานรากที่สำรวจจากกลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาททั่วประเทศจำนวน 2,150 ตัวอย่าง พบว่าประชาชนฐานราก 32.2% มีเงินออม โดย 56.9% ของผู้มีเงินออม เป็นการออมแบบรายเดือนเฉลี่ย 1,500 บาทต่อเดือน เพื่อใช้ยามฉุกเฉิน/เจ็บป่วย 71.7%”.