อึ้ง!ผลสรุปดิจิทัล-เอทีเอ็มล่ม กสิกรไทยยังโอ่ไอทีสุดเจ๋งแต่ต้นเหตุเกิดจาก "คน"

แบงก์กสิกรไทยยันปัญหาดิจิทัล-เอทีเอ็มล่มเกิดจากคน ยันระบบ “ไอที” สุดเจ๋งรองรับธุรกรรมได้สูงถึง 4 เท่า เตรียมระดมสมองระหว่างสมาชิกสมาคมธนาคารไทยกับไอทีเอ็มเอ๊กซ์ พร้อมออกกฎกติกาชัดเจน–ทดสอบระบบป้องกันความผิดพลาด

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยถึงกรณีระบบการทำธุรกรรมบนช่องทางดิจิทัล และเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย ที่เกิดปัญหาขัดข้องเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ (Human Error) ที่ทำผิดพลาดทางขั้นตอนจนไปกระทบเครือข่าย หรือ Network ภายใน ทำให้ต้องปิดระบบการเชื่อมต่อ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจลุกลามไปสู่สถาบันการเงินอื่นๆ

“ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาระบบไอที หรือความสามารถในการรองรับธุรกรรม เพราะระบบที่ธนาคารวางไว้นั้น สามารถจะรองรับธุรกรรมได้สูงกว่า 4 เท่าของจำนวนธุรกรรมสูงสุด โดยในช่วงพีกของธนาคารกสิกรไทยมีธุรกรรมประมาณ 150,000-170,000 ธุรกรรมต่อนาที ดังนั้นเรื่องความสามารถในการรองรับจึงไม่ใช่ปัญหา เพราะธนาคารเตรียมแผนรองรับไว้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนที่เกี่ยวข้องมีหลายคน หากไม่ทำตามสเต็ป (ขั้นตอน) 1-5 หรือหลุดขั้นตอนใดไปก็เกิดปัญหาได้”

ในส่วนของมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีกนั้น นายปรีดีกล่าวว่า วิธีที่ดีที่สุดมีอยู่ 2 เรื่องหลักคือ 1.การหารือร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารพาณิชย์ กับบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด หรือ ITMX ซึ่งเป็นตัวกลาง ระบบโอนเงิน เพื่อทบทวน และย้ำถึงกฎระเบียบ ขั้นตอนในการปฏิบัติต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ เกิดปัญหาขึ้นอีก รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดขัดข้องขึ้นมา และ 2.การทดสอบระบบก่อนหรือหลังทำ เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อเปิดให้บริการแล้วไม่มีปัญหา เนื่องจากตัวระบบมีความซับซ้อนเชื่อมโยงกันหลายแห่ง หากทำขั้นตอนเกินไปหรือขาดไปก็จะเป็นปัญหาได้ ส่วนจะมีปัญหาเกิดขึ้นอีกหรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้เปรียบเทียบเหมือนการขับรถบนถนนสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา แต่หากเกิดปัญหาแล้วจะต้องแก้ไขให้เร็ว

นายปรีดีกล่าวอีกว่า ปัญหาธุรกรรมการเงินขัดข้องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าไม่มีเงินของลูกค้าที่โอนเกิดการสูญหาย โดยเงินที่โอนไปแล้วแต่ปลายทางยังไม่ได้รับ ธนาคารสามารถเคลียร์เงินคืนได้ภายใน 1 วัน แต่ลูกค้าอาจเกิดความไม่สะดวกที่ไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินได้ช่วงหนึ่ง

ส่วนการลงทุนด้านระบบไอทีนั้นนายปรีดีกล่าวว่า ธนาคารมีการจัดสรรเงินลงทุนด้านไอทีวงเงินปีละ 1,000 ล้านบาท ถือเป็นงบลงทุนปกติในทุกปีของธนาคาร ซึ่งวงเงินลงทุนดังกล่าวจะถูกจัดสรรไปในด้านต่างๆ ไม่ใช่การขอเพื่อมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา

นายปรีดีกล่าวอีกว่า ในวันนี้ (5 ก.ย.) จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารด้านระบบคอมพิวเตอร์ ของสมาคมธนาคารไทยร่วมกับธนาคารสมาชิก หรือ Chief information officer (CIO) เพื่อพิจารณาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา การให้บริการธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยเกิดขัดข้องทำให้ลูกค้าไม่สามารถโอนเงิน หรือชำระเงินผ่านโมบายแบงกิ้ง อินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง และเอทีเอ็ม รวมทั้งลูกค้าของธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ไม่สามารถโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ หรือหมายเลขบัญชีมายังธนาคารกสิกรไทยได้ จนส่งผลกระทบในวงกว้าง เนื่องจากธนาคารกสิกรไทยมีส่วนแบ่งการตลาดลูกค้าดิจิทัลสูงถึง 20% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด และเกิดปัญหาซ้ำอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากระบบไม่เสถียรเป็นเหตุให้ ITMX ต้องตัดการต่อเชื่อมระบบกับธนาคารกสิกรไทย เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามไปยังธนาคารพาณิชย์อื่นๆ.