ธนาคารออมสิน จับมือ สกสค. แก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.–ช.พ.ส. เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินของผู้กู้ในโครงการ ทั้งครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามนโยบายรัฐบาล เป็นการสร้างวินัยทางการเงินและตอบแทนครูที่ดีมีอุดมการณ์ ให้หลุดพ้นปัญหาหนี้สิน สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตครูได้อย่างยั่งยืน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารออมสิน และสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) จำนวน 5 ฉบับ ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ แก่สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาโครงการ 2-6 โครงการเกื้อกูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (โครงการ 7) และโครงการสวัสดิการเงินกู้แก่สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (โครงการ ช.พ.ส.)
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกันในการปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานของสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยสนับสนุนแนวทางความมีวินัยทางการเงิน แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดียิ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด สกสค. ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันกับธนาคารออมสิน แก้ไขเพิ่มเติมบันทึกข้อตกลงเดิม ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ ยกเลิกเงื่อนไขในบันทึกข้อตกลงเดิม ที่กำหนดให้ธนาคารออมสินจ่ายเงินสนับสนุนให้กับ สกสค.ตามอัตราและระยะเวลาที่ กำหนดตามแต่ละโครงการ เพื่อให้นำไปใช้ในการพัฒนาสมาชิกและกิจการ ช.พ.ค. รวมทั้งชำระหนี้ค้างแทนสมาชิก ช.พ.ค. ที่ไม่สามารถชำระเงินงวดให้กับธนาคารเกิน 3 เดือนติดต่อกันได้
“สกสค. จะไม่รับเงินสนับสนุนดังกล่าว แต่ขอให้ธนาคารนำเงินสนับสนุนไปลดอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้กู้ที่ได้กู้เงินตามโครงการนั้นๆ ในเดือนถัดจากเดือนที่บันทึกข้อตกลงนี้มีผลใช้บังคับ”
นายชาติชาย กล่าวว่า สำหรับผู้กู้ ซึ่งหมายถึงครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามโครงการที่จะได้รับสิทธิลดอัตราดอกเบี้ยในอัตราข้างต้น ต้องมีคุณสมบัติ คือ มีสถานะหนี้ปกติ หรือเข้าร่วมมาตรการแก้ไขหนี้หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ต้องชำระดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 100% และชำระดอกเบี้ยที่ตั้งพักทั้งหมด หรือผู้กู้เข้าร่วมมาตรการแก้ไขหนี้หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หากมีเงื่อนไขชำระดอกเบี้ยน้อยกว่า 100% เมื่อครบระยะเวลาผ่อนปรนแล้ว สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ตามปกติ และชำระดอกเบี้ยที่ตั้งพักทั้งหมด นอกจากประโยชน์ที่ผู้กู้จะได้รับจากการลดดอกเบี้ย ยังเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระการผ่อนชำระในแต่ละเดือน ผู้กู้ยังสามารถขอลดเงินงวดผ่อนชำระได้อีกด้วย ส่วนผู้ที่ไม่ประสงค์ลดเงินงวดในแต่ละเดือน ก็จะไปลดเงินต้นได้มากขึ้น ทำให้หมดภาระหนี้เร็ว
นายชาติชาย กล่าวว่า วงเงินที่ธนาคารเคยจัดสรรเพื่อสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการ ช.พ.ค. เดือนละประมาณ 200 ล้านบาท จะเปลี่ยนไปเข้าบัญชีครูและบุคลากรทางการศึกษาแทน รวมปีละ 2,000 ล้านบาท โดยครูที่ไม่แน่ใจว่าจะผ่อนชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขอให้มาเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ โครงการเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ธนาคารเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งถือเป็นเจตนารมณ์ที่ดีที่จะสร้างวินัยทางการเงินและตอบแทนครูดี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มี กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ.