นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ (SET) 566 บริษัท หรือคิดเป็น 97.75% จากทั้งหมด 579 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) นำส่งผลการดำเนินงานปี 60 สิ้นสุด 31 ธ.ค.60 มีผลประกอบการสูงขึ้น ทั้งยอดขายและกำไรสุทธิ โดยมียอดขายรวม 11.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 คิดเป็น 9.72 % และมีกำไรสุทธิรวม 982,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.05% เป็นผลจากหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคได้ผลดีจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น ขณะที่กำไรสุทธิของธนาคารลดลงเล็กน้อย จากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น ด้านผลดำเนินงาน บจ. ใน mai กำไรสุทธิ 4,970 ล้านบาท ทำให้งวดปี 60 กำไรสุทธิรวมของ บจ. SET และ mai มีทั้งสิ้น 990,000 ล้านบาท
ส่วนงวดไตรมาส 4 ปี 60 เศรษฐกิจที่โตต่อเนื่อง ส่งผลให้ บจ. ดีขึ้นทั้งด้านยอดขายและกำไร โดยมีกำไรสุทธิ 251,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.26% จากไตรมาส 4 ปี 59 และเพิ่มขึ้น 20.47% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 60 ขณะที่ยอดขายไตรมาส 4 ปี 60 อยู่ที่ 2.9 ล้านล้านบาท โดยความสามารถการทำกำไรของ บจ. อ่อนตัวเล็กน้อย มีอัตรากำไรขั้นต้น 23.96% ลดลงจาก 24.71% ในปี 59 และมีอัตรากำไรสุทธิ 8.92% ลดลงเล็กน้อยจาก 8.98% ขณะที่โครงสร้างเงินทุนยังแข็งแกร่งอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสิ้นปี 60 อยู่ที่ 1.14 เท่า
นางเกศรายังเปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้เตรียมออกคำแนะนำให้นักลงทุนรายย่อยบนเว็บไซต์ของตลาดในเดือน มี.ค.นี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนในไอซีโอ เช่น ผลตอบแทน, ความเสี่ยงในการลงทุน หลังจากมีบริษัททั้งที่อยู่ในและนอกตลาดระดมทุนออกไอซีโอมากขึ้น โดยบริษัทที่ออกไอซีโอโดยใช้ความเป็น บจ. ทำให้ดูน่าเชื่อถือนั้น ตลาดมีหน้าที่ดูแลให้ บจ.เปิดเผยข้อมูลที่ครบถ้วนเท่านั้น แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าควรลงทุนหรือไม่ลงทุน นักลงทุนต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน และตลาดไม่กังวลว่าการระดมทุนด้วยไอซีโอจะมีผลกระทบต่อการระดมทุนแบบเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ)