กกร.เล็งขยับจีดีพีปี 60 ใหม่

ชี้ปัจจัยหนุนสารพัด “ท่องเที่ยวรุ่ง-ส่งออกโต”

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) วันที่ 3 ต.ค.นี้ คาดว่า กกร.จะมีการพิจารณาปรับเพิ่มตัวเลขอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี 2560 ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.5% เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ขยายตัวสูงถึง 13.2% สูงสุดในรอบ 55 เดือน

“มีหลายปัจจัยที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการส่งออกปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ระดับ 5% ขณะเดียวกันการลงทุนจากภาครัฐ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการท่องเที่ยว แต่สิ่งที่ ส.อ.ท.ยังกังวลคือ ภาวะอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่มีทิศทางแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี และล่าสุดเคลื่อนไหวระดับกว่า 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ กระทบต่อผู้ส่งออกขนาดกลางและเอสเอ็มอีที่ส่งออกสินค้า แม้จะส่งออกจำนวนมาก แต่มีผลกำไรต่ำ และผู้ที่ส่งออกสินค้าเกษตร หากนำรายได้กลับมาในรูปของเงินบาทก็จะมีรายได้ลดต่ำลง แต่ผู้ส่งออกรายใหญ่ไม่น่าห่วง เพราะธุรกิจส่วนใหญ่มีกำไรสูง จึงเป็นเพียงแค่ขาดทุนกำไรเท่านั้น จึงขอฝากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยดูแลให้ค่าเงินบาทสอดรับกับสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาคเอเชียด้วย”

นายเกรียงไกรกล่าวว่า แม้เงินบาทจะแข็งค่า ทิศทางการส่งออกจะเติบโตต่อเนื่อง ยอมรับว่ามาจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวมากขึ้น ทั้งสหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรป แต่เศรษฐกิจในประเทศไทย กำลังซื้อของประชาชนในประเทศยังไม่ดีขึ้น เป็นผลจากการฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะภาคเกษตร เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรโดยรวมยังตกต่ำอยู่ จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องหามาตรการมาช่วยดูแลในเรื่องดังกล่าวคู่ขนานด้วย

“การส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง ข้อเท็จจริงคือ เป็นการกระจุกตัวอยู่ไม่กี่บริษัท ขณะที่เอสเอ็มอีมีทั้งที่ส่งออกและไม่ส่งออก โดยเฉพาะผู้ที่เน้นจำหน่ายในประเทศยังลำบาก เนื่องจากกำลังซื้อของประชาชนไม่ดีขึ้น เพราะภาพรวมเกษตรกรที่เป็นแรงซื้อสำคัญรายได้ไม่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้ชาวบ้านอาจมองว่าเศรษฐกิจไม่ดี”.