นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรใช้เวลาไม่นานในการพิจารณานำเบี้ยประกันสุขภาพมาหักค่าลดหย่อนภาษี ซึ่งปัจจุบันประมวลรัษฎากรกำหนดว่า การหักค่าลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกันชีวิตต้องเข้าเงื่อนไข 3 องค์ประกอบ คือ 1.ระยะเวลาในการทำประกันชีวิตต้องมีอายุเกินกว่า 10 ปี 2.การหักค่าลดหย่อนนั้นจะทำได้ เฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยเท่านั้น และ 3.ไม่นับรวมประกันสุขภาพ
“การนำเบี้ยประกันสุขภาพมาหักค่าลดหย่อนภาษี ใช้เวลาพิจารณาไม่นาน โดยหลักการเราเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เนื่องจากการประกันสุขภาพของประชาชน จะช่วยลดความเสี่ยงในการรักษาพยาบาล และยังช่วยลดปริมาณคนไข้ของโรงพยาบาลรัฐอีกด้วย”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก นางนุสรา บัญญัติปิยพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย เสนอให้กรมสรรพากรนำค่าเบี้ยประกันสุขภาพสามารถไปหักเป็นค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี ในวงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งล่าสุดนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว และได้สั่งให้กรมสรรพากรไปเร่งพิจารณาและเสนอให้กระทรวงการคลังก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้ศึกษาข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณา 1 รูปแบบ จากที่เสนอไปทั้งหมด 2 รูปแบบคือ 1.เพิ่มเบี้ยประกันสุขภาพให้แก่ประชาชนอีกคนละไม่เกิน 15,000 บาท ต่อปี 2.สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพมานับรวมกับเบี้ยประกันชีวิต แต่รวมแล้วไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี.