ชี้ช่องทางธุรกิจไทยลงทุนใน ‘ฟิลิปปินส์’

Investment

Wealth Management

Content Partnership

Author

Content Partnership

Tag

ชี้ช่องทางธุรกิจไทยลงทุนใน ‘ฟิลิปปินส์’

Date Time: 12 ก.ค. 2567 10:00 น.
Content Partnership

Summary

  • • ฟิลิปปินส์ มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2566 สูงถึง 5.6% สูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียและเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาในเอเชีย
  • • จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ประเทศฟิลิปปินส์จึงมีความน่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนจากต่างประเทศ (foreign direct investment) โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีโอกาสจากความต้องการสูง และเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • • “ธนาคารกรุงเทพ” เปรียบเสมือน “เพื่อนคู่คิด” ที่พร้อมให้คำแนะนำ และสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ที่สนใจเข้าลงทุนและขยายธุรกิจในประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความเชี่ยวชาญ จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจที่มีมาอย่างยาวนานในฟิลิปปินส์

ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่มีการร่วมมือทางเศรษฐกิจในเขตอาเซียน ทั้งเรื่องการค้า การส่งออก และนำเข้า รวมไปถึงในด้านการเมือง สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคงต่างๆ โดยฟิลิปปินส์มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2566 ที่ 5.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวในระดับสูง เมื่อเทียบกับหลายประเทศในเอเชีย แม้จะลดลงจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 7.5% ในปี 2565 โดยเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ในปี 2566 ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อสูง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีผลกระทบทางลบต่อการลงทุน และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนภายในประเทศ

ประเทศฟิลิปปินส์นับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เร็วที่สุดประเทศหนึ่งในกลุ่มประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาในเอเชีย รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่สำคัญยังได้รับผลกระทบน้อยจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เนื่องจากฟิลิปปินส์มีการพึ่งพาการส่งออกในระดับต่ำ และการเติบโตจากภายในประเทศมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 70% ของจีดีพี หรือ 3 ใน 4 เลยทีเดียว

ทำให้จุดสนใจของการเข้ามาลงทุนในฟิลิปปินส์อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องดื่ม รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆ จากการเติบโตของประชากร และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ ซึ่งนำมาสู่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในปัจจุบันและรองรับการขยายตัวในอนาคต

ทั้งนี้ สิ่งที่นักลงทุนไทย หรือผู้ประกอบการไทยที่สนใจลงทุนในฟิลิปปินส์ควรติดตาม และเกาะติดสถานการณ์การค้าการลงทุนของฟิลิปปินส์อย่างใกล้ชิด คือ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราเงินเฟ้อหรือสามารถเข้าปรึกษา หรือขอคำแนะนำการลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงอย่าง "ธนาคารกรุงเทพ" ซึ่งถือเป็นสถาบันการเงินของไทยที่มีข้อมูล และมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจในฟิลิปปินส์มาอย่างยาวนาน

ธนาคารกรุงเทพ สาขามะนิลา

ธนาคารกรุงเทพ ในประเทศฟิลิปปินส์ หรือ "ธนาคารกรุงเทพ สาขามะนิลา" เป็นธนาคารพาณิชย์ไทยเพียงแห่งเดียวที่มีสาขาในฟิลิปปินส์ เริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2538 ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจและผู้ประกอบการ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารกรุงเทพคอยดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำในเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการไทย สามารถรองรับกับความต้องการของผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้ามาลงทุนได้เป็นอย่างดี

ธนาคารกรุงเทพ สาขามะนิลา เปิดให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย เช่น บริการเพื่อธุรกิจส่งออกและนำเข้า สินเชื่อธุรกิจ บริการโอนเงินระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการเงินฝาก และบริการโอนเงินผ่าน PESONet นับว่าเป็นธนาคารที่มีบริการทางการเงินครบเครื่อง พร้อมเป็น "เพื่อนคู่คิด" ให้กับผู้ประกอบการไทย

คุณวรท สามโกเศศ Vice President ผู้จัดการ ธนาคารกรุงเทพ สาขามะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เล่าถึงภาพรวมเศรษฐกิจประเทศฟิลิปปินส์ว่า เศรษฐกิจมีการเติบโตในระดับสูง โดยหลังจากเกิดโควิด เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มีอัตราการเติบโต 7.5% ในปี 2565 และในปี 2566 มีการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 5.6% โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น้อยลงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2567 มีการเติบโตที่ 5.7% โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ดีขึ้น โดยในไตรมาสแรกอยู่ที่ 3.4% เทียบกับอัตราเงินเฟ้อในปี 2566 ที่ผ่านมาที่ 6% ซึ่งการเติบโตของเศรษฐกิจส่วนใหญ่ หรือประมาณ 2 ใน 3 ของผลผลิตรวมทางเศรษฐกิจมาจากการใช้จ่ายภายในประเทศ จากฐานจำนวนประชากรที่สูงถึง 120 ล้านคน

ฟิลิปปินส์มีอัตราการเติบโตของประชากรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ประมาณ 1% ต่อปี หรือ 1.2 ล้านคนต่อปี โดยประชากรส่วนใหญ่ของฟิลิปปินส์ อยู่ในช่วงวัยเด็กและวัยทำงาน โดยช่วงอายุ 0-14 ปี มีสัดส่วนมากถึง 30% หรือประมาณ 35 ล้านคน และช่วงอายุ 15-64 ปี มีสัดส่วนถึง 64% หรือกว่า 71 ล้านคน จากฐานประชากรที่สูง ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น ทำให้อัตราความต้องการในการอุปโภคบริโภค ทั้งในส่วนการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ การใช้จ่ายสินค้ามูลค่าสูง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ในขณะที่การลงทุนเข้ามาในฟิลิปปินส์ยังมีต่อเนื่อง จากนโยบายของภาครัฐในการปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในส่วนของรถไฟฟ้าสายใหม่ ส่วนต่อเติมสายเดิม ทางด่วนต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์ในการเชื่อมต่อส่วนเมืองต่างๆ ระหว่างทางเหนือและทางใต้ของกรุงมะนิลา รวมถึงการก่อสร้าง สนามบินนานาชาติแห่งใหม่

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ฟิลิปปินส์จะมีตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ และมีสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม ครบถ้วน แต่ยังขาดความหลากหลาย และมีตัวเลือกจำกัด จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยที่สนใจในการเข้ามาขยายตลาดในประเทศฟิลิปปินส์

ขณะเดียวกันยังมีอุตสาหกรรมโดดเด่นนอกเหนือจากตลาดผู้บริโกค คือ ตลาดผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย และกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีกำลังซื้อ และมีพฤติกรรมในการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในแบบ "work life balance" มากขึ้น

ความท้าทายของนักลงทุนและผู้ประกอบการไทยในฟิลิปปินส์ หลัก ๆ คือเรื่องสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศที่เป็นหมู่เกาะ มีความเสี่ยงจากการเกิดแผ่นดินไหว อยู่ในเขตมรสุมที่มีพายุผ่านกว่า 15-20 ลูกต่อปี ซึ่งส่วนนี้อาจสร้างความเสียหาย และมีผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจได้ นอกจากนี้จากสภาพภูมิประเทศที่เป็นหมู่เกาะ การขนส่งก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายในการดำเนินธุรกิจจากระยะเวลาที่ใช้มากขึ้นในการขนส่ง และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

ปัจจัยความสำเร็จสำคัญที่ทำให้นักลงทุนไทยเข้ามาลงทุนในฟิลิปปินส์ประสบความสำเร็จ คือ การนำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลาย อยู่ในกลุ่มประเภทที่มีความต้องการ และในราคาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีกำลังซื้อ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจากไทย ยังเป็น
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้บริโภคในประเทศฟิลิปปินส์

"ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นตลาดใหญ่และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากการบริโภคจากคนในประเทศ คนฟิลิปปินส์ที่ทำงานต่างประเทศ มีการส่งเงินกลับมาให้ครอบครัว คิดเป็นจำนวนรวมเกือบ 10% ของจีดีพี ทำให้เงินที่ถูกส่งกลับมาให้ครอบครัวนำไปบริโภคเพิ่มในประเทศอีก และด้วยวัฒนธรรมความเป็นอยู่ คนฟิลิปปินส์อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ในครอบครัว มีการนัดพบเจอกัน และมีกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวสม่ำเสมอ ซึ่งนำไปสู่การบริโภคที่เพิ่มขึ้น และจะผลส่งดีต่อผู้ประกอบการไทย ที่เข้ามาลงทุน และขยายตลาดเหล่านี้"

คุณวรท กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ ได้เล็งเห็นโอกาสการเติบโตทางเศรฐกิจ และโอกาสในการขยายเครือข่ายต่างประเทศของธนาคารในการให้บริการลูกค้า โดยได้เปิดธนาคารกรุงเทพ สาขามะนิลา เมื่อปี 2538 หลังจากที่ทางการฟิลิปปินส์ได้มีการเปิดให้ธนาคารต่างชาติเข้ามาขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจธนาคารเป็นครั้งแรก โดยธนาคารกรุงเทพเป็นหนึ่งใน 10 ธนาคาร ที่ได้รับการคัดเลือกและเป็นธนาคารเดียวในอาเซียนที่ได้รับใบอนุญาต จากทั้งหมด 22 ธนาคารที่มีการยื่นขอใบอนุญาตในครั้งนั้น

ด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชันต่างๆ ธนาคารกรุงเทพมีบริการทางการเงินครบถ้วนพร้อมให้บริการนักลงทุน และผู้ประกอบการไทยที่สนใจลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่การเริ่มให้คำปรึกษาในเรื่องตลาด ความพร้อมในส่วนของซัพพลายเชน การจัดตั้งบริษัทในฟิลิปปินส์ ตลอดจนถึงการให้บริการด้านการเงินที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ เช่น การเปิดบัญชีเงินฝากในสกุลเงินท้องถิ่น และดอลลาร์สหรัฐ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการโอนเงินในประเทศและระหว่างประเทศ สินเชื่อธุรกิจนำเข้าส่งออก (เทรดไฟแนนซ์) สินเชื่อระยะยาว สินเชื่อหมุนเวียน สินเชื่อโครงการ รวมถึงการค้ำประกันการชำระเงิน เป็นต้น

"3-5 ปีจากนี้สาขามะนิลาเราจะโฟกัสลูกค้าใน 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

1. กลุ่มนักลงทุนจากไทย ซึ่งเราพร้อมให้บริการ และทำงานร่วมกับสำนักงานใหญ่อย่างใกล้ชิด ในการดูแลลูกค้าของธนาคารที่มีความสนใจลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์

2. ลูกค้าและนักลงทุนจากประเทศอื่นที่อยู่ในเครือข่ายสาขาต่างประเทศของเรา ที่สนใจลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์

3. ขยายฐานลูกค้าธนาคาร ในส่วนของลูกค้าท้องถิ่นในฟิลิปปินส์ ทั้งในส่วนลูกค้ารายใหญ่ และรายกลาง ตลอดจนถึงการให้บริการแก่ลูกค้าท้องถิ่นที่สนใจลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในประเทศที่มีเครือข่ายของธนาคาร"

ธนาคารกรุงเทพยินดีให้บริการ และพร้อมสนับสนุนนักลงทุน และผู้ประกอบการที่มีความสนใจในการลงทุนในฟิลิปปินส์ โดยธนาคารกรุงเทพ สาขามะนิลา มีการทำงานร่วมกันกับสำนักงานใหญ่ และสาขาต่างประเทศของธนาคารอย่างใกล้ชิด ให้ความมั่นใจ และความพร้อมในการดูแลลูกค้าที่เข้ามาลงทุนในฟิลิปปินส์ได้เป็นอย่างดี

ที่ปรึกษาการลงทุนและโอกาสทางธุรกิจ
ธนาคารกรุงเทพ สาขามะนิลา
ที่อยู่ : 10th Floor, Tower 2, The Enterprise Center, 6766 Ayala Avenue,
Makati City 1200, Metro Manila, Philippines
เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-15.00 น.
โทร: +(63 2) 7752 0333
อีเมล: manila.cs@bangkokbank.com
ศูนย์ให้คำแนะนำด้านการค้าและการลงทุนสำหรับผู้ที่สนใจดำเนินธุรกิจใน AEC
ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารแห่งความเป็นเลิศใน AEC
ศูนย์ AEC Connect พร้อมช่วยคุณสร้างโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนในภูมิภาค
โทรศัพท์: 02 230 2758
อีเมล: aecconnect@bangkokbank.com
ติดต่อและปรึกษาเพิ่มเติม
ธนาคารกรุงเทพ (สำนักงานใหญ่)
เว็บไซต์: www.bangkokbank.com
โทรศัพท์: บัวหลวงโฟน 1333 หรือ 02 645 5555
อีเมล: info@bangkokbank.com

Author

Content Partnership

Content Partnership