ทอท.ลุยแผนปี 61 เร่งเปิดประมูลร้านค้าปลอดภาษี-ที่ดินว่างเปล่ารอบสนามบินสุวรรณภูมิ หวังเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์อีก 10-20% ตั้งเป้าใน 5 ปี มีรายได้เพิ่มขึ้นขั้นต่ำ 2 หมื่นล้านบาท รับลูก ‘สมคิด’ เข้าลงทุนสนามบินภูมิภาค หวังดันขึ้นแท่นฮับอีสาน-แม่สอด เชื่อมสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ปี 61 นั้น ทอท.จะเน้นเพิ่มพัฒนาเชิงพาณิชย์อีก 10-20% จากเดิม 5% ทั้งการเปิดประมูลเอกชนเข้ามารับสัมปทานในพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิ และการพัฒนาในพื้นที่ดินว่างเปล่าจำนวน 2 แปลง บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ คือ ที่ดินว่างเปล่าแปลง 37 ของกรมธนารักษ์ ขนาด 990 ไร่ และที่ดินขนาด 723 ไร่ ที่ ทอท.ซื้อไว้ตั้งแต่สมัยเริ่มก่อสร้างสนามบิน
โดยการพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าจะมีทั้งรูปแบบให้เอกชนเข้าร่วมทุนในรูปแบบพีพีพี และรูปแบบสัมปทานรายย่อย โดยจะเปิดโอกาสให้เอกชนที่สนใจลงทุนนำเสนอโครงการเข้ามา อย่างไรก็ตามภายในสัปดาห์หน้า ทอท.จะเสนอแผนการพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าให้กรมธนารักษ์พิจารณา หากได้ข้อสรุปเรื่องผลตอบแทนการใช้พื้นที่ ทาง ทอท.จะเร่งดำเนินการพัฒนาทันที
นอกจากนี้ ทอท.ยังสนใจที่จะเข้าไปบริหารสนามบินภูมิภาคทั้งแบบร่วมลงทุนกับ กรมท่าอากาศยาน หรือ ทย. และลงทุนเอง 100% สาเหตุที่ ทอท.สนใจเข้าลงทุนสนามบินภูมิภาค เนื่องจากมองว่าสนามบินภูมิภาคเหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางทางการบินที่จะเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคกับสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง
ทั้งนี้ ปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง มีความหนาแน่นทางจราจรทางอากาศมากขึ้น โดยสนามบินที่ ทอท.สนใจที่จะเข้าไปพัฒนาลงทุน คือ สนามบินขอนแก่น และสนามบินอุดรธานี ส่วนทางภาคตะวันตกมีความสนใจอยากพัฒนาสนามบินแม่สอด
“เดือน ก.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายที่ ทอท. โดยประเด็นสำคัญคือ มาติดตามเรื่องการบูรณาการทางอากาศของ ทอท.กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบิน เพื่อให้การพัฒนาศักยภาพทางอากาศของประเทศไทยมีความสมบูรณ์และมีศักยภาพสูงสุด”
นายวิชัย บุญยู้ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า หลังปี 61 ทอท.จะมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์มากขึ้น ทั้งการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง รวมถึงการเปิดพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าแปลงที่ 37 จำนวน 990 ไร่ และพื้นที่ว่างเปล่าอีก 723 ไร่ บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ
อย่างไรก็ตามทาง ทอท.ได้ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 ปี จากนี้ปี 61-65 ทอท.จะต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20,000 ล้านบาท จากเดิมในปี 59 ทอท.มีรายได้ประมาณ 50,300 ล้านบาท และที่ผ่านมา ทอท.มีรายได้โตเฉลี่ยปีละ 5-7%
นอกจากนี้ ทอท.อยู่ระหว่างศึกษาการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ขายสินค้าปลอดภาษีในสนามบินสุวรรณภูมิใหม่ เพื่อทดแทนสัญญาของกลุ่มคิง เพาเวอร์ที่จะหมดอายุในปี 2563 โดยการเปิดประมูลรอบใหม่จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.การเปิดประมูลพื้นที่จำหน่ายสินค้าปลอดภาษี ระยะเวลาสัมปทาน 10 ปี
2.จุดรับมอบสินค้าปลอดอากร (Pick up counter) ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะประมูลแบบเปิดกว้างมากขึ้น แต่อยู่ระหว่างศึกษาการแบ่งสัญญาใน 3 รูปแบบ คือ 1.เปิดประมูลแบบสัญญาเดียวแบบ (Common Use) 2.เปิดพื้นที่ให้เอกชนที่จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีเช่า พร้อมให้พื้นที่ Common Use และ 3.เปิดให้เอกชนเจรจาเช่าพื้นที่เป็นรายๆ
"การศึกษาทั้งหมดจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ และเปิดประมูลช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 61 เบื้องต้นจะต้องเสนอโครงการพื้นที่ปลอดภาษีเข้าสู่ขั้นตอนประมูลแบบรัฐเอกชนร่วมลงทุน (PPP) เพราะมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ไม่น่าจะเกิน 5,000 ล้านบาท ส่วนสัญญา Pick up ต้องพิจารณารูปแบบและสัญญาอีกคร้งว่าจะต้องเข้ากระบวนการ PPP หรือไม่"
นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชนในแนวทางการบริหารสนามบินภูมิภาคทั้ง 29 แห่ง ในสังกัด ทย. คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ ก่อนเสนอภาพรวมโครงการฉบับสมบูรณ์เข้าสู่กระทรวงคมนาคมภายในเดือน ก.ค. เพื่อให้อนุมัติหลักการและแนวทางพัฒนาต่อไป ทั้งในส่วนของรูปแบบการพัฒนาและเม็ดเงินลงทุน
สำหรับแผนบูรณาการร่วมกับ ทอท. ที่นายสมคิดกำชับมานั้นได้หารือกับ ทอท.มาหลายครั้งแล้วในเรื่องความเหมาะสมและสนามบินเป้าหมายในการพัฒนา ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังไม่เปิดเผยรายชื่อสนามบินที่จะพัฒนาแบบบูรณาการร่วมกันได้ เนื่องจากต้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเห็นชอบในหลักการเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าแผนบริหารและพัฒนาสนามบินร่วมกันนั้นจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนหน้า สอดคล้องกับกรอบเวลาที่รองนายกรัฐมนตรีได้ตั้งเอาไว้อย่างแน่นอน.