ภาวะการซื้อขายหุ้น
ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงปลายสัปดาห์ จากความกังวลต่อการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนีหุ้นปิดที่ระดับ 1,566.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.10% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 10.22% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 39,030.22 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่615.81 จุด ลดลง 0.90% จากสัปดาห์ก่อน
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ (6-10 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,500 และ 1,530 จุด แนวต้านที่ 1,580 และ 1,595 จุดตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งการประชุมของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ข้อมูลการค้า และการจ้างงานนอกภาคเกษตร ของสหรัฐฯ จีดีพีไตรมาส 4/59 ของญี่ปุ่น และยูโรโซน ตลอดจนการประชุมนโยบายการเงินของอีซีบี
ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน
เงินบาทกลับมาอ่อนค่ากว่า 35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ สวนทางเงิน ดอลลาร์ฯ ที่ฟื้นตัวขึ้น ตามโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายคนทยอยออกมาส่งสัญญาณเตรียมปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทยัง สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วย อย่างไรก็ดี แรงขายเงินดอลลาร์จากกลุ่มผู้ส่งออก ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทไว้ได้บางส่วน โดยปิดตลาดเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ระดับ 35.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ ส่วนแนวโน้มสัปดาห์นี้ (6-10 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 34.95-35.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ.
บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด