ส่องเทรนด์ 4 หุ้นชิ้นส่วนฯ ปี 68 ลุ้นธุรกิจโตรับ “ดาต้าเซ็นเตอร์-อีวี" DELTA-CCET พุ่งหุ้นแพงแล้ว

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ส่องเทรนด์ 4 หุ้นชิ้นส่วนฯ ปี 68 ลุ้นธุรกิจโตรับ “ดาต้าเซ็นเตอร์-อีวี" DELTA-CCET พุ่งหุ้นแพงแล้ว

Date Time: 1 ม.ค. 2568 09:00 น.

Video

วิเคราะห์อนาคต Google เจ้าแห่งเสิร์ชเอนจิน จะอยู่ยังไง ถ้าไม่ได้ผูกขาด | Digital Frontiers

Summary

  • เจาะลึกแนวโน้มหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2568 พร้อมกลยุทธ์การลงทุน คาดได้ประโยชน์จาก “ดาต้าเซ็นเตอร์-อีวี"

เจาะลึกแนวโน้มหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2568 พร้อมกลยุทธ์การลงทุน หลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนในปีที่ผ่านมา สะท้อนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงจากต้นปี โดยเฉพาะ CCET และ DELTA หลังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าหลายบริษัท ประกาศขยายการลงทุนในประเทศไทย ทำให้แนวโน้มผลประกอบการยังคงเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด

เปิดเทรนด์หุ้นชิ้นส่วนฯ ยิ้มรับการลงทุนใหม่ในอนาคต


การลงทุนในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รายงานว่า มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งยอดอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 2.6 แสนล้านบาท สูงกว่ายอดปี 2566 ทั้งปีที่ 1.7 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ การลงทุนในด้านศูนย์ข้อมูล (Data Center) ยังคงแข็งแกร่ง แต่การลงทุนในกลุ่ม EV มีแนวโน้มชะลอตัว โดยส่วนใหญ่เป็นการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มากกว่าการตั้งโรงงานผลิต EV เต็มรูปแบบ ทำให้เม็ดเงินการลงทุนในส่วนนี้ต่ำกว่า Data Center

อย่างไรก็ตาม มีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในห่วงโซ่อุปทานในประเทศในอนาคต โดยอุตสาหกรรมชั้นกลางน้ำถึงปลายน้ำจะได้รับประโยชน์จากคำสั่งซื้อจากลูกค้าจีนและตะวันตกเพิ่มขึ้น แต่คาดแนวโน้มในอีก 2 ไตรมาสข้างหน้ายังไม่สดใส และการเติบโตจะกระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม Data Center เท่านั้น

โบรกฯ สั่ง “ขาย” หุ้น DELTA ราคาแพงเกินไป!

บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น DELTA หนึ่งในหุ้นชิ้นส่วนฯ ที่ราคาปรับขึ้นมาอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา ทั้งจากความคาดหวังผลประกอบการในอนาคต และจากแรงซื้อเก็งกำไร โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ราคาหุ้น DELTA แพงเกินไป โดยบริษัทมีมุมมองต่อแนวโน้มในไตรมาส 4/67 ที่อ่อนตัวลง และบริษัทได้ปรับลดแนวโน้มลงเล็กน้อย โดยคาดว่ารายได้จะทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน โดยมีแรงหนุนจากความต้องการสินค้าที่เกียวข้องกับ AI และ Data center ที่ยังแข็งแกร่ง แต่ความต้องการสินค้าจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ายังคงอ่อนแอ

ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอาจเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ อันเนื่องมาจากต้นทุนเพิ่มเติมและรายการย้อนกลับของสินค้าคงคลังที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ดังนั้น เราคาดว่ากำไรของ DELTA จะอ่อนตัวลง แต่ยังคงเติบโตได้จากปีก่อน

ทั้งนี้ ปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย” ราคาเป้าหมายคงที่ที่ 110 บาท แม้ว่าความต้องการสินค้าและรายได้ของ DELTA จะยังคงแข็งแกร่ง แต่มีความเสี่ยงต่อกำไรปี 2568 จากภาษีและค่าใช้จ่าย R&D ที่สูงขึ้น ราคาหุ้นอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมี P/E สูงถึง 82 เท่า ซึ่งดูเหมือนจะสูงเกินไปสำหรับการเติบโตของกำไรเพียง 13% (CAGR) ในช่วงปี 2568-2569

หุ้น CCET คาดกำไรโตต่อเนื่อง 3 ปี แต่ราคาหุ้นสะท้อนไปมากแล้ว

บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CCET หุ้นชิ้นส่วนที่ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 หลังราคาทำจุดสูงสุดไม่หยุด บวกจากต้นปีกว่า 300% ซึ่งข้อมูลจากบทวิเคราะห์ฯ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ก็มีความเห็นต่อแนวโน้มธุรกิจไปในเชิงบวก จากทั้งการขยายโรงงานในประเทศบราซิลช่วยเพิ่มกำลังการผลิตในตลาดอเมริกาใต้ พร้อมทั้งรองรับลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มเติม และการเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง ซึ่งคาดว่าจะใช้ศักยภาพการผลิตเต็มที่ในปี 2568

โดยยังคงเป้าหมายกำไรสุทธิปี 2567-2569 โตได้ต่อเนื่อง โดยปี 2567 คาดอยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท ปี 2568 อยู่ที่ 3.1พันล้านบาท และปี 2569 อยู่ที่ 3.6พันล้านบาท นอกจากนี้คาดกำไรไตรมาส 4/67 จะเติบโตได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย

อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำ “ลดน้ำหนักลงทุน” ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท โดยอ้างอิงจาก P/E  ปี 2568 ที่ 16.8 เท่า แม้ว่าบริษัทจะได้รับอานิสงส์จากนโยบายTrade war 2.0 ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนย้ายฐานการผลิตออกจากจีนมาที่ภูมิภาคอื่น รวมถึงการปรับเปลี่ยนไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อเน้นสินค้าที่มีไฮมาร์จิ้ นแต่เรามองว่าราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยบวกเหล่านี้ในระดับที่มากพอสมควรแล้ว

HANA ผลงานฟื้นตัวจำกัด แต่ราคาหุ้นต่ำ 30 บาท ถือว่าน่าสน!

บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น HANA รายงานผลผลประกอบการไตรมาส 3/67 ออกมาไม่ดีนัก กำไรปกติทำได้ 52 ล้านบาท ลดลง 89% จากไตรมาสก่อน และลดลง 92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากธุรกิจ IC กลับมาอ่อนแอ มีการตั้งด้อยค่าสินค้าคงคลัง จากค่าเงินบาทแข็งค่ากดดัน และธุรกิจ SiC ได้รับผลกระทบจากตลาด EV มีราคาขายที่ลดลงแรงและการที่ตลาดจีนถูกขึ้นภาษีจากประเทศอื่นๆ

โดยบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ผลงานอาจฟื้นตัวได้จำกัดในไตรมาส 4/67 ขณะเดียวกัน คงคาดการณ์กำไรปกติปี 2567 ที่ 1.1 พันล้านบาท ลดลง 42% จากปีก่อน และปี 2568 ที่ 1.4 พันล้านบาท เติบโตได้ 28% คงราคาเหมาะสมของ HANA ณ สิ้นปี 2568 ที่ 30.00 บาทต่อหุ้น อิง P/E 19.1 เท่า เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “TRADING” หุ้นปรับลดลงจน Downside Risk ไม่มากแล้ว

อย่างไรก็ดีหุ้นยังไม่มี Upside มากเพียงพอให้กลับเข้าสะสมรอบใหม่ เชิงกลยุทธ์ราคาหุ้นจะน่าสนใจที่ระดับต่ำกว่า 30.00 บาทต่อหุ้น โดยยิ่งราคาต่ำกว่า 30.00 บาทต่อหุ้น ก็จะยิ่งน่าสนใจมากขึ้นสำหรับการทยอยสะสม สำหรับรอบ 6 เดือนขึ้นไป ไม่ใช่ลุ้นการฟื้นตัวระยะสั้น

KCE แนะหาจังหวะดักเก็บหุ้นต้นปี รอเพิ่มกำลังผลิตครึ่งปีหลัง

ปิดท้ายด้วย บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KCE ถือว่ามีลุ้น หลังบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จากการติดตั้งเครื่องจักร HDI เสร็จจะช่วยเร่งกำลังผลิตได้เพิ่มมากขึ้น และการเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่จะช่วยลดต้นทุนแรงงาน และมีอัตราการสูญเสียที่ลดลง แนวโน้มรายได้ปี 2568 ทรงตัวถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และมีค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการกู้เงินซื้อ ICL ปีหน้าจะเน้นไปที่การลดต้นทุนเป็นหลัก

ทั้งนี้ ยอดขายยานยนต์ในสหรัฐฯอ่อนตัว เติบโตเพียง EV car ซึ่งยังมีสัดส่วนน้อย ในขณะที่ผู้ผลิตยานยนต์ในยุโรปกำลังเผชิญกับอุปสงค์ที่ลดลง, ต้นทุนการผลิตสูง ทำให้เจอกับการแข่งขันที่รุนแรงจากจีน แม้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลกลดลง แต่คาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ผู้ผลิตทางฝั่งยุโรปและสหรัฐฯยังคงทรงตัว

อย่างไรก็ตาม ปรับประมาณการรายได้ลงและปรับกำไรปี 67 และ 68 ลง 23% และ 31% ตามลำดับ ทางฝ่ายฯใช้ P/Eเฉลี่ย 1 ปี -1.0S.D ปรับ P/E ลงมาที่ 21.2 เท่า ปรับราคาพื้นฐานลงมาที่ 29.50 บาท แนะนำรอจังหวะลงทุนในช่วงครึ่งแรกปี 2568 เพื่อรอระดับกำลังผลิต HDI เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง คงคำแนะนำ ”ซื้อ”

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ