จับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดสุดท้ายของปี 2567 หลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน เนื่องจากคาดว่าจะมีการพิจารณาและอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยมาตรการที่ถูกจับตามอง ได้แก่ โครงการ Easy E-Receipt และ Digital Wallet เฟส 2 ซึ่งนักวิเคราะห์ฯ มองว่าอาจสร้างแรงหนุนสำคัญในการกระจายเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึงมากขึ้น
โดยการจัดสรรงบประมาณในโครงการ Easy E-Receipt มองว่าจะส่งผลบวกโดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีก บัตรเครดิต รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่ Digital Wallet เฟส 2 คาดว่าจะหนุนหุ้นค้าปลีกฐานราก รวมถึงกลุ่มสินเชื่อจากการนำเงินไปคืนหนี้ด้วย
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ติดตามการประชุม ครม. วันนี้ คาดว่าจะมีการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงการ Easy E-Receipt และ Digital Wallet เฟส 2
สำหรับกรณี Easy E-Receipt แม้เม็ดเงินจะถูกแบ่งให้ใช้งานเป็น 2 ส่วน คือ 30,000 บาท สำหรับใช้จ่ายทั่วไปและท่องเที่ยว และ 20,000 บาท สำหรับสินค้า SMEs, วิสาหกิจชุมชนหรือ OTOP แต่เราคงมุมมองเม็ดเงินกระจายทั่วถึงขึ้น ทั้งกลุ่มค้าปลีก เน้นกลุ่มที่มียอดขายต่อบิลสูง CRC, HMPRO, COM7 บัตรเครดิต KTC กลุ่มท่องเที่ยวเน้น ERW, CENTEL และกลุ่มธนาคารที่มีฐานสินเชื่อ SME ต่อสินเชื่อรวมสูง เน้น KBANK, SCB, BBL
กรณี Digital Wallet เฟส 2 คาดส่งผลบวกหุ้นอิงกลุ่มลูกค้าฐานราก ค้าปลีก CPALL, CPAXT, BJC กลุ่มเช่าซื้อที่การแจกรอบก่อนเห็นผลบวกชัดเจนจากการนำเงินไปคืนหนี้ เน้น SAWAD, JMT
นอกจากนี้ แนะนำติดตามว่าจะมีการพิจารณา Mega Projects หรือไม่ อาทิ มอเตอร์เวย์ M5 สายรังสิต-บางปะอิน มูลค่า 3.13 หมื่นล้านบาท ที่เดิมมีกระแสข่าวจะเข้า ครม. ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน รวมถึงโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงินลงทุน 6.47 พันล้านบาท หากทยอยเดินหน้าโครงการขนาดใหญ่ เราประเมินเป็นบวกต่อหุ้นธนาคารที่เชื่อมโยงกับงานรัฐฯ KTB หุ้นรับเหมา CK, STECON, PYLON เน้น KTB และ PYLON ที่เริ่มมีสัญญาณ Backlog เร่งขึ้น
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney