“ลดภาษีเงินได้ - เพิ่ม VAT” ช่วยดันหุ้นไทย 100 จุด หนุนกำไร บจ. เพิ่มอีก 6%

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“ลดภาษีเงินได้ - เพิ่ม VAT” ช่วยดันหุ้นไทย 100 จุด หนุนกำไร บจ. เพิ่มอีก 6%

Date Time: 4 ธ.ค. 2567 13:53 น.

Video

เศรษฐกิจไทย เสี่ยงวิกฤติหนักแค่ไหน เมื่อต้องเปลี่ยนนายกฯ | Money Issue

Summary

  • กระทรวงการคลัง เล็งปรับโครงสร้างภาษี “ลดภาษีเงินได้-เพิ่ม VAT” โบรกฯ คาดเป็นผลดีกับตลาดหุ้นไทย เพิ่มอัพไซด์ราว 100 จุด และหนุนกำไรบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นราว 6.25%

Latest


จับตาผลกระทบตลาดหุ้นไทย หลังพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีแนวคิดปรับปรุงโครงสร้างภาษีเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น โดยเล็งปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลดลงเหลือ 15% และปรับเพิ่มการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากเดิม 7%

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์มองว่าเป็นบวกต่อการเพิ่มรายได้ของภาครัฐ และสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนและภาคธุรกิจมีกำไรมากขึ้น พร้อมเป็นสัญญาณบวกหนุนกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลกลับหุ้นไทยได้

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า วานนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยแนวทางในการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ดังนี้

  1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล อาจพิจารณาปรับลดการจัดเก็บภาษีเหลือ 15% (เดิม 20%) มองเป็นบวกต่อภาคธุรกิจมีกำไรเพิ่มขึ้น และการจ้างงานอาจเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอาจจัดเก็บภาษีได้น้อยลง ทำให้รายได้ลดลง
  2. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อาจพิจารณาปรับลดการจัดเก็บภาษีเหลือ 15% (เดิมเป็นอัตราก้าวหน้าของภาษีเงินได้สูงสุด 35%) มองเป็นบวกต่อกลุ่มผู้มีรายได้สูง ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลจะจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้มีรายได้น้อย แต่ในทางกลับกัน รัฐบาลก็ต้องแลกมาด้วยการจัดเก็บภาษีของผู้มีรายได้สูงลดลง อีกทั้งโอกาสกระทบต่อกำลังซื้อของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
  3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีกระแสข่าวว่าเบื้องต้นรัฐบาลวางแผนปรับขึ้นภาษีเป็น 8% (เดิม 7%) ขณะที่ทั่วโลกมีการเก็บระหว่าง 15-25% มองเป็นบวกต่อการเพิ่มรายได้ของภาครัฐ ซึ่งจะลดขนาดการขาดดุล และลดความเสี่ยงต่อการถูกปรับลด Credit Rating แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งอาจกระทบโดยตรงต่อเงินเฟ้อเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งจะลดกำลังซื้อของผู้มีรายได้น้อยการบริโภคน้อยลง

เมื่อพิจารณาแหล่งรายได้ของรัฐบาลในงบประมาณปี 2567 (ต.ค.66 - ก.ย.67) ส่วนใหญ่มาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คิดเป็นสัดส่วน 28% และหากมีการปรับโครงสร้างภาษีให้มาอยู่ที่ฐาน 15% เบื้องต้น ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าจะทำให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้มากกว่าที่สูญเสียไป

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างภาษีหนุนกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลกลับหุ้นไทยได้ วานนี้มีสัญญาณดีขึ้น จากกระแสเงินลงทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิในตลาดการเงินไทยทุกแห่ง คือ ต่างชาติซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทย 3.17 พันล้านบาท ซื้อสุทธิหุ้นไทย 1.4 พันล้านบาท

และซื้อ SET50 FUTURES สูงถึง 36,951 สัญญา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะได้รับ SENTIMENT บวกจากการที่คลังจะปรับโครงสร้างภาษีแบบ 15 – 15 - 15 โดยเฉพาะประเด็นการปรับลดภาษีนิติบุคคลจาก 20% เหลือ 15%

เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ประเมินประเด็นการปรับลดภาษีนิติบุคคลจาก 20% เหลือ 15% ช่วยหนุนตลาด และแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นได้ ดังนี้

  • หนุนกำไรบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นราว 6.25% หรือเพิ่ม EPS 6 บาทต่อหุ้น
  • เพิ่มอัพไซด์ให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นราว 100 จุด (อิง EPS 97 บาท/หุ้น และ PE 16.5 เท่า)
  • จูงใจให้กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมเพิ่มขึ้น

"ประเด็นการปรับโครงสร้างภาษีนิติบุคคล มีโอกาสหนุน EPS ตลาดเพิ่มขึ้นได้ 6% พร้อมกับจูงใจเห็นการลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมขึ้นได้"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ