เปิดแผน 3 ปีตลาดหุ้นไทย หนุนบจ.โต-เปิดตลาดคาร์บอนเครดิต

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เปิดแผน 3 ปีตลาดหุ้นไทย หนุนบจ.โต-เปิดตลาดคาร์บอนเครดิต

Date Time: 29 พ.ย. 2567 07:30 น.

Summary

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯกางแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ภายใต้แนวคิด “เพื่อส่วนรวมและความเท่าเทียม” ชู 3 โครงการขับเคลื่อนตลาดทุน หนุนการเติบโตของบริษัทจดทะเบียน, เพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการลงทุนพันธบัตรของรัฐ และพัฒนาระบบนิเวศคาร์บอนผ่านตลาดคาร์บอนเครดิต

Latest

SNPS เทรดวันแรกสู้ชีวิต ปิดเหนือจอง 0.48% NKT เคาะ 7.60-8.20 บาท  จอง 2-4 ธ.ค.นี้

ตลาดหลักทรัพย์ฯกางแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ภายใต้แนวคิด “เพื่อส่วนรวมและความเท่าเทียม” ชู 3 โครงการขับเคลื่อนตลาดทุน หนุนการเติบโตของบริษัทจดทะเบียน, เพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการลงทุนพันธบัตรของรัฐ และพัฒนาระบบนิเวศคาร์บอนผ่านตลาดคาร์บอนเครดิต

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แถลงแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (ปี 2568-70) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้แนวคิด “เพื่อส่วนรวมและความเท่าเทียม” โดยมี 3 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อนตลาดทุน ผ่าน 3 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1.สนับสนุนการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ผ่านโครงการ Jump+ 2.เพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนบุคคลและประชาชน เข้าถึงการลงทุนพันธบัตรของรัฐได้ง่ายขึ้น และขยายธุรกิจ ของผู้ร่วมตลาดด้วยการพัฒนา Bond Connect Platform 3.พัฒนาระบบนิเวศคาร์บอนผ่านตลาดคาร์บอนเครดิต ด้วย Carbon Market Platform

สำหรับกลยุทธ์แรกคือ 1.มุ่งมั่นเพื่อโอกาสการเติบโต เพิ่มความน่าสนใจลงทุนใน บจ.ไทยนั้น จะริเริ่มโครงการ “Jump+” สร้างการเติบโตให้ตลาดทุนไทย โดยเพิ่มมูลค่าให้ บจ. เน้นบริษัทที่มีศักยภาพ โดยให้ บจ.เข้าร่วมตามความสมัครใจ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะส่งเสริมการดำเนินงาน, การขับเคลื่อนความยั่งยืน ESG, การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้คำปรึกษาและเพิ่มช่องทางสื่อสารกับผู้ลงทุน และตลาดหลักทรัพย์ฯยังเตรียมพัฒนาดัชนีใหม่ที่ช่วยสะท้อนผลดำเนินงานของ บจ.ที่ประสบความสำเร็จจากโครงการ Jump+ ร่วมกับสมาคมนักวิเคราะห์ (IAA) จัดทำบทวิเคราะห์สนับสนุนการตัดสินใจลงทุน

2.ร่วมพัฒนาเพื่อความทั่วถึง โดยสนับสนุนการทำงานของผู้ร่วมตลาด พัฒนา Bond Connect Platform เพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนบุคคลเข้าถึงการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลในตลาดแรกและตลาดรองได้ง่ายขึ้น โดยให้สามารถจองซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดแรก เหมือนกับการจองซื้อหุ้น IPO และยังซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรองผ่าน Platform และให้สามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันสำหรับการลงทุนสินทรัพย์ประเภทอื่นได้ โดยมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ได้แก่ การพัฒนาระบบชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ใหม่ (SET Clear) เริ่มให้บริการ ปี 70 และขยายความร่วมมือ IT service partnership เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงขยายการสื่อสารแก่ผู้ลงทุนและประชาชน เน้นการสื่อสารที่เข้าถึงทั่วถึง สร้างความเข้าใจที่ผู้ลงทุนควรรู้แบบเข้าใจง่าย ผ่านช่องทางใหม่ๆ พร้อมเตือนประชาชนให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพหลอกลงทุนรูปแบบต่างๆ

3.สรรค์สร้างคนและอนาคต โดยพัฒนาระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้ทางการเงิน สร้างคนรุ่นใหม่ (Next Gen) ทั้งผู้ลงทุน ผู้ประกอบวิชาชีพ ภาคการศึกษา และ Influencer ที่มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงินการลงทุน พร้อมนำเสนอ SET Learn Scape Platform รองรับกระบวนการการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลเพื่อพัฒนาบุคลากร บจ. เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ โดยร่วมมือกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน นำเสนอความรู้ให้กลุ่มเป้าหมายมีภูมิคุ้นกันด้านการเงินและการลงทุน ที่สำคัญจะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ low carbon economy ร่วมกับพันธมิตร โดยออกแบบรูปแบบ Carbon Market Platform ที่เหมาะสม เพื่อรองรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ทั้งในตลาดภาคบังคับและภาคสมัครใจ พัฒนาเครื่องมือคำนวณ Carbon Footprint ขององค์กร (SET Carbon) พร้อมสนับสนุนการสร้างหลักสูตรและจัดสอบผู้ทวนสอบ (Verifier) เพื่อส่งเสริมการมุ่งสู่ Low Carbon Economy และ Net Zero ในปี 93.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ