บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SABUY แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่บริษัทฯ ออกหุ้นกู้จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้ SABUY258A หุ้นกู้ SABUY254A และหุ้นกู้ SABUY24DA นั้น บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่าบริษัทฯ มีภาระในการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ของ SABUY258A ในวันที่18 พฤศจิกายน2567 ซึ่งบริษัทฯ ยังไม่ได้มีการชำระ
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ชุดนี้ในวันที่ 20 พฤศจิกายน2567 เพื่อหาทางแก้ไขโดยเร็ว
โดยก่อนหน้านี้ SABUY ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้เงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้ยืมระยะยาว และดอกเบี้ยที่ครบกำหนดตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ตามจำนวนและ/หรือกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในสัญญากู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2567
บริษัทมียอดคงเหลือของเงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ถึงกำหนดชำระเมื่อทวงถาม และดอกเบี้ยค้างจ่ายกับสถาบันการเงินนั้น จำนวน 118.2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
ขณะเดียวกัน เตรียมเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 3 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้ SABUY258A หุ้นกู้ SABUY254A และหุ้นกู้ SABUY24DA ในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 10.00 น. โดยมีเรื่องพิจารณาหลักๆ คือ การพิจารณาผ่อนผันให้การที่ผู้ออกหุ้นกู้เข้าเจรจาปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ยืมกับสถาบันการเงิน และการที่ผู้ออกหุ้นกู้เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 3 ปี นับจากวันครบกำหนดไถ่ถอนเดิม
และยกเลิกหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้ในการดำรงไว้ซึ่งอัตราส่วนของ “หนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น” (Net Debt to Equity Ratio) ตลอดอายุของหุ้นกู้
พิจารณาอนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้และพิจารณาอนุมัติให้กำหนดวันชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ จากเดิมชำระทุกๆ 3 เดือน เป็นชำระทุกๆ 6 เดือน
และพิจารณาอนุมัติผ่อนผันให้การที่ผู้ออกหุ้นกู้ชำระดอกเบี้ยของหุ้นกู้ SABUY258A ในอัตรา 2% ต่อปี ประจำงวดวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัด
สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 3/67 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 1.26 พันล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากในไตรมาสที่ 3 กลุ่มบริษัทได้มีการจำหน่ายธุรกิจ outsourcing บริการจัดหาคนงานออกจากกลุ่ม ทำให้รายได้ลดลงจากการจำหน่ายกลุ่มธุรกิจดังกล่าว ขณะที่รายได้บริการจากธุรกิจหลัก เช่น ตู้เติมเงิน, SPEED, iSoftel, Sabuy wash ยังคงสามารถรักษายอดการให้บริการได้ดี
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิรวม 918.4 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิในส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 865.2 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 3/67 บริษัทมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการเสียอำนาจการควบคุมในบริษัทย่อย จากการจำหน่ายเงินลงทุนใน BZB บางส่วนให้กับบุคคลภายนอกกลุ่มบริษัท โดยรับรู้ผลขาดทุนจำนวน 575.4 ล้านบาท
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้