การย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทย ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน ที่พร้อมรองรับธุรกิจและการลงทุนขนาดใหญ่ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลดความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการย้ายฐานผลิตนี้ คาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องไปอีกยาวนาน ทำให้นักลงทุนหันมาจับตามองหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AMATA ได้เปิดเผยว่ามีความมั่นใจสำหรับยอดขายที่ดินปีนี้ ว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ 2,500 ไร่
เด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AMATA เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินในช่วงที่ผ่านมาขึ้นเป็น 2,500 ไร่ หลังจากไตรมาส 3/67 ไตรมาสเดียวทำยอดขายได้กว่า 957 ไร่ หนุนให้ 9 เดือนแรกทำได้แล้ว 2,000 ไร่ โดยมั่นใจว่าไตรมาส 4/67 จะทำได้ตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ บริษัทได้รับอานิสงส์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย ของผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์
ล่าสุด บริษัทได้ปิดดีลขายที่ดินให้ผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์แล้วจำนวน 72 ไร่ มูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาเห็นสัญญาณของการย้ายฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการจีน อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะดำเนินต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง
สำหรับประเด็นการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังจะทราบผลนั้น มองว่าหาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้ง จะไม่มีการทิ้งนโยบายสงครามการค้าเดิม ซึ่งต้องติดตามต่อว่าจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการย้ายฐานการผลิตมากขึ้นหรือไม่ แต่หาก “กมลา แฮร์ริส” ชนะ ก็เชื่อว่าผู้ประกอบการจีนยังจะเข้ามาลงทุนในไทยต่อ ไม่ว่าจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมไหน
นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนเพื่อซื้อที่ดินปีละ 5-6 พันล้านบาท ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่น่าสนใจลงทุน โดยพิจารณาการขยายที่ดินทั้งในนิคมอุตสาหกรรมชลบุรีและระยองอย่างต่อเนื่อง หลังการขายที่ดินมีเข้ามาตลอดทุกโครงการ
สำหรับแผนการนำบริษัท อมตะ ยู จำกัด หรือ “AMATA U” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการเตรียมตัว และรอดูสถานการณ์ตลาดในปี 2568 เพื่อพิจารณายื่นไฟลิ่งต่อไป
ด้าน ชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ ยู จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการร่วมศึกษาแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กับบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW เพื่อให้ทั้งสองบริษัทที่มีศักยภาพมีการบูรณาการร่วมกันเพื่อความมั่นคงด้านสาธารณูปโภค และรองรับความต้องการของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ EASTW เป็นบริษัทที่ถือว่ามีโครงข่ายน้ำที่มีความแข็งแกร่งที่สุด ประกอบกับ AMATA เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มีน้ำสำรองมากที่สุด จึงประเมินว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะสามารถสร้างความแตกต่างและจุดเด่นเพื่อสร้างความสนใจให้กับลูกค้าและผู้ดำเนินธุรกิจกับกลุ่มฯ มีมากขึ้นต่อเนื่อง
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้