หุ้นไทยพุ่งเกือบ 20 จุด กนง.ลดดอกเบี้ย ดึงเงินไหลเข้า เชื่อ 1,500 จุดผ่านไม่ยาก
Date Time: 16 ต.ค. 2567 17:09 น.
“Summary“
- หุ้นไทยพุ่ง 19.98 จุด ปิด 1,485 จุด ผลจาก กนง.ปรับลดดอกเบี้ย ดึงเงินไหลเข้าตลาดหุ้น นักวิเคราะห์ชี้ 1,500 จุด อยู่ไม่ไกล
ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย ในวันที่ 16 ต.ค. ตลาดหุ้นไทยเกิดแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่น หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีมติในการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ให้เหลือ 2.25% ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มโรงไฟฟ้า และกองรีทส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก
ส่งผลให้ดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,485.01 จุด เพิ่มขึ้น 19.98 จุด หรือ 1.36 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย ล้านบาท
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ เปิดเผยกับ Thairath money ว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างรุนแรง จากที่กนง.มีมติในการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ซึ่งสร้างแรงเซอร์ไพรส์ตลาด จึงเกิดแรงซื้ออย่างถาโถม
ทั้งนี้ ทิศทางของตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ มองว่าแรงซื้อจะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศที่มีเม็ดเงินในมือจำนวนมาก ทั้งจากกองทุนวายุภักษ์ 1.5 แสนล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยในประเทศที่ยังลุยซื้อหุ้นไทย
แม้จะมีแรงเทขายจากนักลงทุนต่างชาติทยอยออกมาบ้างก็ตาม โดยมองว่ามีโอกาสที่ดัชนีจะทะลุ 1,500 จุดไม่ยาก โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจลงทุน คือ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคการเงิน ทั้งไฟแนนซ์ กลุ่มหุ้นเกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ และกลุ่มกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ รีทส์
บล.กรุงศรี ประเมินว่า กนง.มีมติ 5:2 ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ 2.25% ประเด็นสำคัญอยู่ที่ สัญญาณหนี้ครัวเรือนที่เริ่มลดลง แต่นโยบายการเงินระยะถัดไปจะเป็นการพิจารณาตามข้อมูลที่เข้ามาเพิ่มเติม โดยรวมเรามองบวกต่อสัญญาณ นโยบายการเงิน-การคลังที่เริ่มสอดประสานอย่างที่ตลาดคาดหวัง เป็นอัพไซด์เศรษฐกิจ จะทำให้ตลาดหุ้นเร่งขึ้น สู่ดัชนีเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 1,540 จุด โดยประเมินทุกๆ 0.25% เป็น Upside ต่อ SET Index ราว 45-50 จุด
ทั้งนี้ บล.กรุงศรี มองบวกต่อมติ กนง. ดังกล่าว สัญญาณนโยบายการเงินการคลังสอดประสาน อย่างที่ตลาดคาดหวัง สร้างสัญญาณบวกต่อการกลับมาขยายตัวเศรษฐกิจ การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ เรามองมีส่วนช่วยทั้งฝั่งเศรษฐกิจ ลดภาระดอกเบี้ยประชาชน หนุนโอกาสเห็นภาพขยายตัวสินเชื่อที่กลับมาหนุนเศรษฐกิจ นอกจากนี้ จุดยืนของ ธปท.ที่มองการลดครั้งนี้ ไม่ใช่การเข้าสู่ Easing Cycle ทำให้เชื่อว่าระดับหนี้ครัวเรือนยังบริหารจัดการได้
อย่างไรก็ตาม มุมมองต่อเศรษฐกิจระยะถัดไปที่ยังคงเดิม แม้มีปัจจัยเสี่ยงระดับมหภาคระยะหลังบ้าง เช่น สถานการณ์ตะวันออกกลาง รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ จีน ยังไม่แน่นอน BOT มองภายในมีปัจจัยบวกที่ช่วยสร้าง Upside Risk ชดเชยได้ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ
กลุ่มได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยปรับลดลง
o กลุ่มเช่าซื้อ (จำนำทะเบียน, JMT, เครดิตการ์ด KTC, AEONTS)
o กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GPSC)
o กลุ่มหนี้สูง (CPALL, TRUE, IVL)
o กลุ่มอสังหาฯ (AP, SIRI, SC)
o กลุ่ม High Yield (ADVANC)
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
Author
