ตลาดหุ้นไทยดูเหมือนมีความหวังมากขึ้น จากทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศที่มีความชัดเจน ทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐที่คาดว่ากำลังจะลดลง รวมถึงความชัดเจนการเมืองในประเทศที่มีเสถียรภาพมากขึ้น หนุนให้ดัชนีในช่วงที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นมากกว่า 130.97 จุด หรือ +10.15% มาอยู่ที่ 1,420.81 จุด วันนี้ (11.39 น.) เพิ่มขึ้นจากวันที่ 16 สิงหาคม 2567 หลัง "แพทองธาร ชินวัตร" ได้รับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ดัชนีอยู่ที่ 1,289.84 จุด
ด้าน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากยังมีโมเมนตัมที่ดี จับตานายกฯ แถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของโครงการแจกเงิน1 หมื่นบาท และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ในระยะถัดไป
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ฯ ส่งสัญญาณเตือนว่าอาจต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังดัชนีปรับตัวขึ้นมาแรง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเลือกลงทุน หรือ “Selective Buy” พร้อมเปิด 4 ธีม น่าลงทุนในช่วงนี้
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมินว่า แม้ช่วงสั้นมองดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีโมเมนตัมที่ดีจากคลายกังวลเสถียรภาพทางการเมืองไทยและคาดหวังการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปลายไตรมาส 3/67 ถึงไตรมาส 4/67 แต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา SET Index ปรับขึ้นแล้วกว่า 10% จากเดือนก่อน จึงอาจต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นบริเวณแนวต้าน 1,450-1,460 จุด
โดยมองเม็ดเงินลงทุนจะสลับไหลออกจากกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์ สื่อสาร ไปเข้าสู่กลุ่มปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า อสังหาฯ และการแพทย์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงและคาดจะนำไปสู่การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ FED และ ECB กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ แกว่ง Sideways to Sideways Up หลังจากพักฐานเข้าหากรอบแนวรับ 1,400-1,410 จุด ตามคาด โดยประเมินกรอบการแกว่งตัวที่ 1,405-1,425 จุด หนุนจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกมากขึ้น สำหรับปัจจัยในประเทศวันนี้ โฟกัสอยู่ที่การแถลงนโยบายของ ครม.ใหม่ ต่อสภาฯ และติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ว่าจะลุกลามขยายวงกว้างหรือไม่
ขณะที่ การประชุมนัดแรกวันที่ 17 ก.ย. คาดเห็นความชัดเจนของโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทเดือน ต.ค. เรายังคงมุมมองเชิงบวกและตลาดมีความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/67 ถึงปี 2568 จากนโยบายเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาจาก ครม. ซึ่งจะเป็นบวกโดยเฉพาะฝั่งการบริโภค
ในระยะสั้นขณะที่เม็ดเงินใหม่จากกองทุนวายุภักษ์ 1-1.5 แสนล้านบาท จะเข้ามาหนุนหรือจำกัด Downside ของดัชนีตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/67 ทั้งนี้ ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำเลือกหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ ที่มีแนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 2567 แข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้