เปิดเหตุผลหุ้น TRUE พุ่ง 1 เด้งจากต้นปี โบรกฯ เตือนแพงเกินพื้นฐาน ประมูลคลื่นใหม่ยังเสี่ยง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดเหตุผลหุ้น TRUE พุ่ง 1 เด้งจากต้นปี โบรกฯ เตือนแพงเกินพื้นฐาน ประมูลคลื่นใหม่ยังเสี่ยง

Date Time: 11 ก.ย. 2567 11:15 น.

Video

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 50 ปี สร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างไร ? | Money Issue

Summary

  • หุ้น TRUE พุ่งขึ้นมากกว่า 100% ตั้งแต่ต้นปี 2567 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เริ่มส่งสัญญาณเตือนว่าราคาหุ้นอาจสูงกว่ามูลค่าพื้นฐาน พร้อมชี้ว่าการประมูลคลื่นความถี่ในปี 2568 ยังมีความเสี่ยง

Latest


ราคาหุ้น TRUE พุ่งขึ้นมากกว่า 100% ตั้งแต่ต้นปี 2567 แม้บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง โดยนักลงทุนยังเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโต สะท้อนจากกำไร EBITDA ที่เติบโตติดต่อกันถึง 6 ไตรมาส จากแรงหนุนของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจออนไลน์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง


อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เริ่มส่งสัญญาณเตือนว่าราคาหุ้นอาจสูงกว่ามูลค่าพื้นฐาน พร้อมชี้ว่าการประมูลคลื่นความถี่ในปี 2568 ยังมีความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตในอนาคต และความไม่แน่นอนของปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ควรติดตามอย่างใกล้ชิด


ราคาหุ้นพุ่งทะลุ 100% จากต้นปี แม้ยังขาดทุนสุทธิ


บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TRUE หนึ่งในผู้ให้บริการสัญญาณโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศไทย เป็นที่น่าจับตาสำหรับนักลงทุนอย่างมาก จากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% นับตั้งแต่ต้นปี 2567 นี้ ซึ่งหลังจากมีการควบรวมกิจการกับ DTAC เมื่อปีก่อน ได้ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่เพียงไม่กี่รายในตลาด


การแข่งขันที่ลดลงในตลาดนี้ ยังเปิดโอกาสให้ TRUE มีความยืดหยุ่นในการกำหนดราคา และนำเสนอบริการที่หลากหลายยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง


และด้วยกลยุทธ์ของบริษัท ที่ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตที่สร้างกำไรอย่างยั่งยืน ด้วยการเร่งดำเนินการในการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม ในขณะเดียวกันก็ยังคงปลูกฝังวัฒนธรรมการปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายในการดำเนินงานภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง


หากย้อนดูผลประกอบการของ TRUE ที่ผ่านมา จะพบว่าแม้บริษัทยังมีผลขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง จากผลกระทบของการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่าย แต่หากไปดูถึงกำไรหลัก และกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะพบว่ามีการเติบโตอย่างน่าสนใจ


ในไตรมาส 1/67 TRUE ได้รายงานผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท 769 ล้านบาท แต่หากตัดรายการพิเศษจะมีกำไรอยู่ที่ 802 ล้านบาท ซึ่งมาจากกำไร EBITDA เติบโตติดต่อกัน 5 ไตรมาส จากรายได้บริการมือถือที่เติบโตเด่น และการลดต้นทุนเริ่มเห็นผลมากขึ้น


ต่อมาไตรมาส 2/67 แม้ผลงาน TRUE จะยังขาดทุนสุทธิกว่า 1,879 ล้านบาท แต่กำไรจากการดำเนินงานที่ 7,199 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.6% ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่ 6 ที่มีการเติบโตของ EBITDA อย่างต่อเนื่อง โดยรายได้จากการให้บริการเติบโตขึ้น โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และธุรกิจออนไลน์ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดําเนินธุรกิจลดลง จากการมุ่งเน้นผลการดําเนินงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินงาน


ดังนั้น อาจสรุปได้ว่าทิศทางของบริษัท TRUE ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของกำไรหลัก และการลดต้นทุนที่เริ่มเห็นผลชัดเจน ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา


แม้ว่าบริษัทจะยังคงขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง แต่การเติบโตของ EBITDA ที่ติดต่อกันถึง 6 ไตรมาส และการขยายตัวของรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และธุรกิจออนไลน์ แสดงถึงความแข็งแกร่ง และความสามารถในการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน ซึ่งทำให้นักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของ TRUE ในอนาคต


โบรกฯ เตือนราคาหุ้นเกินมูลค่าพื้นฐาน ประมูลคลื่นปี 68 ยังเสี่ยง


ด้าน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความเห็นไว้ในบทวิเคราะห์ว่า ราคาหุ้น TRUE ปรับตัวเพิ่มขึ้น 111.9% จากต้นปี โดยมองว่าการปรับราคาจะรับรู้ได้เต็มที่ในไตรมาส 4/67 และการเติบโตของรายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะกลับสู่ปกติที่ 2-4% ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป ทำให้โมเมนตัมที่เคยเติบโตสูงอาจมีการชะลอตัวลง ทั้งจากการแข่งขันที่เริ่มเข้าสู่ภาวะสมดุล และไม่มีการแทรกแซงด้านหลักเกณฑ์


ทั้งนี้ การประมูลคลื่นความถี่ปี 2568 จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญในการเติบโตของกำไรสุทธิในอนาคต และผลักดันให้ราคาหุ้นสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การประมูลคลื่นความถี่ดังกล่าวอาจมีความไม่แน่นอน จนกว่าผลการประมูลจะออกมาดี


โดย บล.กสิกรไทย ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” เนื่องจากราคาหุ้น TRUE สูงกว่ามูลค่าพื้นฐาน และคาดการณ์ว่ามีความความเสี่ยงขาขึ้นที่จำกัด (Upside Risk) ต่อประมาณการกำไร แต่มีความเสี่ยงขาลง (Downside Risk) จากความรู้สึกเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่ในปี 2568


นอกจากนี้ ประเมินว่าปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติตตาม คาดจะมาจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง การแทรกแซงด้านหลักเกณฑ์ การแข่งขันด้านราคาที่กลับมา การลงทุนก้อนใหญ่ในธุรกิจที่สร้างผลขาดทุนนอกกลุ่มโทรคมนาคม และการประมูลที่ไม่ราบรื่น

 

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์