หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 55.25 บาท ลบ 2.75 บาท, PTT ปิด 33.75 บาท ลบ 0.50 บาท, AOT ปิด 55.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, BDMS ปิด 27 บาท ลบ 0.75 บาท, GULF ปิดที่ 47.00 บาท ลบ 0.50 บาท
บล.ทิสโก้ชี้ว่า ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวนายกฯและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ทำให้ต้องเสียเวลา
เป็นสุญญากาศการเมืองราว 2 เดือนกว่า ที่จะมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ อาจกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณปี FY2024 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว และอาจกระทบต่อการจัดทำงบประมาณปี FY2025 ให้มีความล่าช้า
นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลใหม่ด้วยว่าจะสานต่อนโยบายของรัฐบาลเดิม หรือยกเลิก หรือปรับเปลี่ยนใหม่
ดังนั้น มองว่า SET Index มีโอกาสลงทดสอบบริเวณโลว์เดิมที่ 1,270-1,280 จุด และเสี่ยงทำโลว์ใหม่ หุ้นที่คาดว่าจะทนทานในสภาวะตลาดแบบนี้ คือ หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล (ชอบ BDMS, BH), กลุ่ม ICT (ADVANC, INTUCH) และหุ้นที่เกี่ยวข้องสินค้าอุปโภค-บริโภค (NEO, SABINA) รวมทั้งหุ้นที่เชิงรับคุณภาพดีและหุ้นปันผล (BEM, DMT, EGCO, MAJOR, MC)
บล.โกลเบล็กประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway ในกรอบ 1,280-1,320 จุด แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่เข้าคำนวณใน MSCI ซึ่งจะมีผล 2 ก.ย.2567 โดย MSCI Global Standard Indexes ไม่มีหุ้นเข้า แต่มีหุ้นที่ถูกนำออก ได้แก่ AWC, EA, GPSC, IVL และ MSCI Small Cap Indexes มีหุ้นเข้าคำนวณ ได้แก่ BJC, EA (ย้ายมาจาก Global Standard Indexes), KA MART และ TLI ส่วนหุ้นที่มีการนำออก ได้แก่ BA, BYD, EPG, NEX, ORI, PTG, RBF, THANI, SC, SJWD, SKY, SNNP และ THCOM!!
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม