มีบทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ถึงกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นเดือนสิงหาคมไว้น่าสนใจ โดยระบุถึงวิธี “ฝ่าคลื่นความผันผวนของตลาดหุ้น”
หลัง SET เคลื่อนไหวผันผวนในเดือน ก.ค. แต่ปิดเดือนสามารถให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้ที่ 1.5% แต่ SET ยังให้ผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดหุ้นโลก โดยดัชนีปรับลดลง 6.7% YTD เทียบกับ MSCI ACWI ที่เพิ่มขึ้น 12% YTD ทำให้ Downside risk จำกัดท่ามกลางแนวโน้มการขยายตัวที่ดีขึ้นในครึ่งหลังปีนี้
โดยกสิกรไทยยังคงเป้า SET สิ้นปี 67 ที่ 1,450 จุด จากคาดการณ์ EPS ที่ 91 บาท, PER เฉลี่ยระยะยาวที่ 16 เท่า, earnings yield gap ระยะยาวที่ 3.5% และอัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ระยะเวลา 10 ปี ที่ 2.8% โดยจากการคำนวณด้วยวิธี PER และ EYG ระบุ Downside risk ตรงนี้ค่อนข้างจำกัด อีกทั้งเศรษฐกิจไทยที่ผ่านระดับต่ำสุดแล้วใน 1H24 ท่ามกลางทั่วโลกที่เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน
สำหรับเดือน ส.ค.67 เชื่อว่าความผันผวนในตลาดจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากใกล้ถึงวันอ่านคำวินิจฉัยคดีการเมืองที่สำคัญ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่ม defensive ที่มีปันผลสูงและเสถียรภาพ โดยปัจจัยขับเคลื่อนเชิงบวกเดือนนี้คาดมาจาก 1.การเปลี่ยนจุดยืนนโยบายของ Fed 2.GDP ไทยที่ออกมาแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 2/2567 3.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดจากภาครัฐ
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง ได้แก่ การเมืองในประเทศที่ไม่แน่นอน, อุปสงค์ทั่วโลกที่เริ่มอ่อนตัวลง, ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐฯเริ่มมีมากขึ้น
พอร์ตลงทุนเดือน ส.ค.แนะนำลงทุนแบบ defensive ผสมผสานด้วยหุ้น big cap ที่มีการเติบโตแข็งแกร่ง เพื่อข้ามผ่านความผันผวนของตลาดที่คาดจะเกิดขึ้นในเดือน ส.ค. โดย ADVANC, BDMS, และ BEM มองเป็นหุ้น defensive ที่มีอัตราตอบแทนจากปันผลสูงและอยู่ใน TESG
ขณะที่ GULF และ DELTA เป็นหุ้น big cap ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง แม้ DELTA รายงานกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปแล้วในไตรมาส 2 แต่คาดว่าบริษัทจะรายงานกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นอีกในครึ่งหลังปีนี้!!
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม