บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น WHA ผู้นำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เผยความคืบหน้าหลังเดินทางโรดโชว์ต่างประเทศร่วมกับรัฐบาล เตรียมเซ็นสัญญาปิดดีลใหญ่สิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ชี้ต่างชาติยังสนใจลงทุนในประเทศไทย สะท้อนจากความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่เข้ามาจำนวนมาก
พร้อมกันนี้ บริษัทเดินหน้าลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีต่อเนื่อง สู่ผู้นำ “Tech & Sustainable Company” หวังสร้างธุรกิจใหม่ๆ หนุนรายได้ระยะยาว ล่าสุดเผยโฉม “MOBILIX” โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจร บริการรถเช่าอีวี สถานีชาร์จ และซอฟต์แวร์บริหารจัดการ ชี้สามารถช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนขนส่งกว่า 20-30% เมื่อเทียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป
จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น WHA กล่าวว่า หลังจากที่มีการเดินทางไปโรดโชว์ในต่างประเทศร่วมกับรัฐบาล เพื่อดึงบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนไทยนั้น ล่าสุดมีความคืบหน้าและใกล้สำเร็จแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังมีความน่าสนใจในการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากมีจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ที่มีความสมบูรณ์ สะท้อนจากความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่เข้ามาจำนวนมากในปัจจุบัน
พร้อมกันนี้ WHA มุ่งมั่นในการปฏิรูปองค์กรอย่างต่อเนื่อง สู่การเป็นผู้นำ “Tech & Sustainable Company” โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนอีกราวที่ 60 ล้าน เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับปรุงการดำเนินงาน โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานขององค์กรเป็นฐานรองรับ
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ นำไปสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต
สำหรับ Mobilix เป็นธุรกิจด้านโลจิสติกส์ที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อพัฒนาการขนส่งสู่ความยั่งยืน ด้วยระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรรายแรกของไทย โดยตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเป็นรูปธรรม
ปี 2567 นี้ถือเป็นปีแรกในการเปิดให้บริการ Mobilix เต็มปี คาดว่าจะสามารถทำผลกำไรได้ จากการนำเสนอบริการครบวงจรในด้านโลจิสติกส์ ประกอบด้วย
1. บริการรถเช่าพลังงานไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ รถบรรทุก 6 ล้อ และรถหัวลาก ตอบโจทย์ธุรกิจและเทรนด์ของโลกด้านความยั่งยืน โดยตั้งเป้าว่าจะมีรถไฟฟ้าให้เช่าแตะ 10,000 คัน ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันจำนวน 300 คัน โดยได้ผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งได้กว่า 20-30% เมื่อเทียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป
2. บริการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในพื้นที่ส่วนบุคคลและพื้นที่สาธารณะ ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนขยายสถานีชาร์จในเส้นทางโลจิสติกส์ที่มีศักยภาพต่อเนื่อง ประกอบกับอยู่ระหว่างศึกษาการตั้งสถานีชาร์จเชิงพาณิชย์ในภาคอีสานเพิ่มเติม จากปัจจุบันมี 3 แห่ง ในแหลมฉบัง-มาบตาพุด
3. ซอฟต์แวร์บริหารจัดการยานพาหนะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ ในการบริหารจัดการด้านการขนส่ง
นอกจากนี้ Mobilix มุ่งมั่นสร้างเครือข่ายพันธมิตรสีเขียว (Green Partnership) โดยร่วมมือกับองค์กรชั้นนำ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาโซลูชันและสร้างมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สีเขียว ให้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจไทยในวงกว้าง
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้