ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KBANK มองเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/67 ฟื้นช้าและไม่ทั่วถึง หวังครึ่งปีหลังประคองการเติบโตได้ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐและภาคการส่งออก พร้อมติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐในช่วงที่เหลือของปี
อย่างไรก็ดี KBANK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 12,653 ล้านบาท เติบโต 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10,994 ล้านบาท พร้อมตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) จำนวน 11,672 ล้านบาท เพื่อให้สํารองฯ อยู่ในระดับที่เหมาะสม สะท้อนสถานการณ์ปัจจุบัน และรองรับความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างๆ
โดย KBANK รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 2/67 ยังมีสัญญาณฟื้นตัวช้าและไม่ทั่วถึง แม้จะมีแรงส่งอยู่บ้างจากการทยอยเบิกจ่ายเงินของภาครัฐ หลังจากที่ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2567 และการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนยังเผชิญแรงกดดันจากด้านต้นทุน ภาระหนี้สิน รวมถึงรายได้ที่ยังฟื้นตัวในกรอบจํากัด
สําหรับในช่วงที่เหลือของปี 2567 นั้น แม้เศรษฐกิจไทยอาจประคองการเติบโตได้ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และการส่งออกที่จะได้อานิสงส์ เมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อน แต่คงต้องติดตามผลกระทบต่อภาคธุรกิจจากแนวโน้มต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นตามค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
รวมถึงรายละเอียดและความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงที่เหลือของปี 2567
ท่ามกลางความท้าทายของปัจจัยต่างๆ ธนาคารกสิกรไทยยังคงมุ่งเน้นการเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ 3+1 เพื่อส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายภายใต้บริบทของเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน
ทั้งนี้ KBANK มีกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 12,653 ล้านบาท เติบโต 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10,994 ล้านบาท แต่ลดลง 6.18% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67 หลักๆ จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง ในขณะที่รายได้สุทธิจากการรับประกันภัยเพิ่มขึ้น
ขณะที่ได้พิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expectedcredit loss : ECL) จำนวน 11,672 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สํารองฯ อยู่ในระดับที่เหมาะสม สะท้อนสถานการณ์ปัจจุบัน และรองรับความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ โดยค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้ส้ินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนอยู่ที่ระดับ 151.87%
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้