EA เปิดหนี้ครบดีล 1.64 หมื่นล้าน กู้เงินแบงก์-หาพาร์ตเนอร์จ่ายหนี้ กูรูเตือน ไม่ใช่โอกาสลงทุน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

EA เปิดหนี้ครบดีล 1.64 หมื่นล้าน กู้เงินแบงก์-หาพาร์ตเนอร์จ่ายหนี้ กูรูเตือน ไม่ใช่โอกาสลงทุน

Date Time: 16 ก.ค. 2567 09:51 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • EA เปิดเผยหนี้ทั้งหมดที่ครบกำหนดปีนี้ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท พร้อมกางแผนการจ่ายหนี้ ทั้งการออกหุ้นกู้ วงเงินกู้แบงก์ และการหาพาร์ตเนอร์ที่เข้มแข็ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมองว่า EA ส่งสัญญาณวิกฤติในงบการเงิน ดังนั้นไม่ใช่จังหวะเหมาะสม ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ปลดเครื่องหมาย SP หุ้น EA แล้ว

Latest


หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สั่งพักการซื้อขายหุ้นของ EA บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) เพื่อให้ชี้แจงงบการเงินที่ภาระหนี้ 1.94 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุด EA ได้เปิดเผยหนี้ทั้งหมดที่ครบกำหนดปีนี้ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท พร้อมกางแผนการจ่ายหนี้ ทั้งการออกหุ้นกู้ วงเงินกู้แบงก์ และการหาพาร์ตเนอร์ที่เข้มแข็ง

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน มองว่า EA ส่งสัญญาณวิกฤติในงบการเงิน ดังนั้นไม่ใช่จังหวะเหมาะสม ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ปลดเครื่องหมาย SP ในหุ้น EA แล้ว


นายวุฒิเลิศ เจียรนิลกุลชัย กรรมการ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) หรือ  เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯ ให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบฐานะทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากภาระหนี้สิน โดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกําหนดชําระภายในปี 2567 และแนวทางที่ชัดเจนในการชําระหนี้ดังกล่าว รวมทั้งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของ บริษัทฯ สืบเนื่องจากการพ้นจากตําแหน่งของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากกรณีการกล่าวโทษ โดยสํานักงาน ก.ล.ต. ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย “H” (Halt) จนกว่าบริษัทฯ จะแจ้งข้อมูลให้ครบถ้วน ในการนี้ บริษัทฯ ขอชี้แจงประเด็นดังกล่าวดังนี้

1. ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯ มีหนี้สินเงินต้นที่จะครบกําหนดชําระภายในปี 2567 จํานวน 19,505 ล้านบาท 

(ตาราง 1)

สําหรับภาระหนี้สินที่จะต้องชําระในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่บริษัทฯ ได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ไปก่อนหน้านั้น เป็นในส่วนภาระการชําระหนี้ระยะยาวของบริษัทฯ รวมทั้งหุ้นกู้ โดยพิจารณาจากการประมาณการเงินกู้ระยะยาวรวมดอกเบี้ยที่ต้องชําระคืนประมาณ 3,200 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่จะครบกําหนดชําระอีก 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะต้องดําเนินการชําระตั้งแต่วันที่ชี้แจง จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ทั้งนี้ ส่วนที่เหลือเป็นวงเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาสที่หนึ่งมีอยู่ที่ 8,354 ล้านบาท โดยเบื้องต้นบริษัทฯ ไม่ได้ชี้แจง เนื่องจากวงเงินกู้ระยะสั้นนั้นโดยปกติบริษัทฯ จะทําการ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นในส่วนนี้อยู่แล้ว

(ตาราง 2)

หุ้นกู้ทั้งหมดที่บริษัทฯ มีนั้นเป็นหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน และมีเงื่อนไข Cross Default กับสถาบันการเงิน หรือหุ้นกู้อื่น รายละเอียดเงินกู้ยืมระยะยาว สถาบันการเงินสุทธิ (รวมเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ถึงกําหนดชําระภายใน 1 ปี)

(ตาราง 3)

โดยเงินกู้ทั้งหมดมีเงื่อนไข Cross Default กับสถาบันการเงิน หรือหุ้นกู้อื่น 2. จากเดิมบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นตามที่เคยปฏิบัติมาสําหรับเงินกู้ระยะสั้นทั้งหมด และมีแผนที่จะชําระเงินกู้และหุ้นกู้ระยะยาวที่จะครบกําหนดในปี 2567 ด้วย 

กระแสเงินสดจากการดําเนินงานโดยไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากการดําเนินกิจการจํานวน 1,900 ล้านบาท และบริษัทฯ จะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมทุกเดือน ประมาณ 1,000 ล้านบาท เงินกู้จากสถาบันการเงิน วงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาขั้นสุดท้ายของสถาบันการเงิน 
หุ้นกู้ที่จะออกเพิ่มเติมในปี 2567 จํานวนและวันเสนอขายอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับประกันการจัดจําหน่าย โดยบริษัทฯ คาดว่าจะเป็นหุ้นกู้อายุ 1 ปี และ 3 ปี อนึ่ง ณ เวลา 16.15 น. บริษัทฯ ได้รับการแจ้งข้อมูลจาก TRIS Rating ว่า บริษัทฯ ได้ถูกปรับลดระดับความน่าเชื่อถือจาก BBB+ (Negative) เป็น BB+ (Negative) 
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ใหม่ ที่จะออกตามแผนเดิม อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ขอเน้นย้ำว่า บริษัทฯ ยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้าประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกระแสเงินสดหลักให้กับบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาและพิจารณาคัดเลือก Strategic Partner(s) เข้ามาร่วมลงทุน สร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการชําระหนี้ และพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว 

3. สําหรับผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัทฯ กรณีนายสมโภชน์ อาหุนัย (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล (CFO) ซึ่งดูแลรับผิดชอบตําแหน่งบริหารสําคัญ พ้นจากตําแหน่งดังกล่าวนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดําเนินธุรกิจ และนโยบายการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯ อย่างมีนัยสําคัญ เนื่องจากคณะผู้บริหาร และทีมงานที่บริหารจัดการยังคงเป็นชุดเดิม ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งนายสมใจนึก เองตระกูล เข้าดํารงตําแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และเป็นที่น่าเชื่อถือ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ รวมถึงกําหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์เพื่อนําบริษัทฯ ก้าวผ่านวิกฤติได้ สําหรับนายวสุ กลมเกลี้ยง ในฐานะรักษาการ CFO เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเงินการลงทุน และเป็นอดีตผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ มีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทฯ เป็นอย่างดี อีกทั้งมีศักยภาพ ทักษะความรู้ ความสามารถในการบริหารงานที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในสายงานนี้มามากกว่า 10 ปี ทั้งนี้ หากบริษัทฯ มีความคืบหน้า เรื่องการแต่งตั้งตําแหน่งตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับทราบต่อไป

กูรูชี้ งบการเงิน EA เข้าขั้นวิกฤติ 

ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น,  เปิดเผยว่า จากฐานะการเงินที่ EA ชี้แจงนั้น สรุปว่ามีภาระหนี้ครบกำหนดปีนี้ราว 16,488 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้สถาบันการเงิน 2,852 ล้านบาท หุ้นกู้ 5,492 ล้านบาท รวมเป็น 8,344 ล้านบาท และอีก 8,144 ล้านล้านบาท เป็นเงินกู้ระยะสั้น และเงินเบิกเกินบัญชี

บริษัทฯ จะขอ roll over หรือผลัดผ่อนยืดการชำระแบบกู้ต่อก้อนหลังสุดไปก่อนตามปกติธุรกิจ เหลือที่ต้องใช้ตามกำหนดคือ 2 ยอดแรก รวม 8,344 ล้านบาท

ซึ่งบริษัทฯ แจ้งว่ามีเงินสดในมือ 1,900 ล้านบาท และรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีกเดือนละ 1,000 ล้านบาท (เมื่อวานบริษัทฯ ชี้แจงว่าเงินส่วนนี้มีอยู่ราว 5,000 ล้านบาท) ซึ่งหากรวมกันก็จะมี 6,900 ล้านบาท ซึ่งก็ยังไม่พอชำระหนี้ทั้งหมด (ขาดอยู่ราว 1,444 ล้านบาท)

2. บริษัทฯ แจ้งว่าเตรียมกู้เงินสถาบันการเงินราว 6,000 ล้านบาท และแจ้งก่อนนี้ว่ามีแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 20,000 ล้านบาท เสนอขาย 23-25 ก.ค.นี้ แต่เนื่องจากเมื่อวานเย็นเพิ่งโดนสถาบันจัดอันดับเครดิต TRIS ลดเครดิตเรตติ้งลงจาก BBB+ (แนวโน้มเชิงลบ) ลงสู่ระดับ BB+ (แนวโน้มเชิงลบ) ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่า Investment grade ลงมาสู่ระดับ Speculalative bond หรือ Junk bond 

ผลดังกล่าวทำให้คาดว่า EA จะทำให้สถาบันการเงินอาจจะไม่ให้กู้เงินเพิ่ม ส่วนหุ้นกู้ชุดใหม่ก็อาจจะไม่มีใครซื้อ บริษัทฯ จึงแจ้งทางออกว่ากำลังเร่งเจรจาหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่เข้ามาร่วมลงทุน หรือเพิ่มทุนเข้ามาใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียด

ทั้งนี้ ผมประเมินว่าความเสี่ยงของกิจการได้ทวีสูงขึ้นจากการชี้แจงสถานะทางการเงินล่าสุด โอกาสที่จะสำเร็จอาจพอมี เนื่องจากยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้าเข้าเดือนละ 1,000 ล้าน แต่ก็ต้องเผชิญความผันผวนไม่แน่นอนอีกมาก ส่วนความเสี่ยงที่จะล้มเหลวก็สูงขึ้น 

ดังนั้นสถานการณ์ชี้ไปในทางว่าวิกฤติที่เกิดขึ้นเวลานี้ ย่อมไม่ใช่โอกาสของการลงทุน ควรจะหลีกเลี่ยง และติดตามข้อมูลข่าวสารและพัฒนาการใดๆ อย่างใกล้ชิด 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ